- อื่นๆ
บทวิเคราะห์ : "1 แถบ 1 เส้นทาง" ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันทั่วโลก
เมื่อ 9 ปีที่แล้ว นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เสนอข้อริเริ่มเกี่ยวกับการร่วมกันสร้างสรรค์"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ตั้งแต่นั้นมา จีนได้เริ่มต้นกระบวนใหม่แห่งการลงลึกกระชับความร่วมมือ"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กับประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ได้ขยายบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันทั่วโลกและได้ประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด
"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้ขับเคลื่อน"การเชื่อมต่อกัน" อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปได้ก่อรูปขึ้นเป็นโครงข่ายเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทวีปยูเรเซีย จนถึงปัจจุบันได้เปิดเส้นทางขนส่งทั้งหมด 82 สาย สามารถไปถึง 200 เมืองใน 24 ประเทศในยุโรป ได้สร้างคุณูปการอันโดดเด่นต่อการสร้างเสถียรภาพทางด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนแสดงว่า ตั้งแต่ปี 2013 - 2021 ยอดการค้าสินค้าสะสมระหว่างจีนกับประเทศรายทาง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" มีมูลค่าประมาณ 11 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และยอดการลงทุนระหว่างกันมีมูลค่าเกิน 230,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความร่วมมือ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ส่งเสริมการยกระดับชีวิตของผู้คนผ่านการพัฒนาในขอบเขตทั่วโลก มีบทบาทสำคัญต่อการลดช่องว่างด้านการพัฒนาและช่วยบรรเทาความยากจนในโลก นับถึงสิ้นปี 2021 จีนได้สร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในต่างประเทศ 79 แห่งภายใน 24 ประเทศตลอดเส้นทาง โดยมีเงินลงทุนสะสม 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้สร้างงานให้กับท้องถิ่นแล้ว 346,000 ตำแหน่ง
ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเคนยาแสดงความเห็นว่า จีนได้จัดตั้งโครงการลดความยากจน ส่งผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตรไปยังแอฟริกา และดำเนินการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่กับประเทศแอฟริกา สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อการพัฒนาและเสถียรภาพในภูมิภาค
ตามการประเมินจากรายงานการวิจัยของธนาคารโลก การร่วมสร้าง"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จะช่วยให้ผู้คน 7.6 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนสุดขีด และ 32 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนระดับปานกลางในประเทศที่เกี่ยวข้อง และจะทำให้ยอดการค้าของประเทศที่มีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น 2.8% ถึง 9.7% และยอดการค้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.7% ถึง 6.2% ตลอดจนรายได้ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.7% ถึง 2.9%
ข้อริเริ่ม"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ยึดมั่นในหลักการแห่งการร่วมหารือร่วมสร้างและร่วมแบ่งปัน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์และชัยชนะร่วมกัน จึงทำให้ข้อริเริ่มนี้ในฐานะผลิตภัณฑ์สาธารณะทั่วโลกและแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศได้รับการต้อนรับจากประเทศมากมาย ได้แสดงให้เห็นถึงพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่และแรงดึงดูดที่แข็งแกร่ง ตามข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน นับถึงปลายเดือนกรกฎาคมปี 2022 จีนได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือมากกว่า 200 ฉบับกับ 32 องค์กรระหว่างประเทศ และ 149 ประเทศรายทาง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"
ยามโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างรุนแรง จีนได้ร่วมมือกับประเทศต่างๆเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด และดำเนินความร่วมมือในการผลิตวัคซีนกับประเทศรายทาง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ยามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกขาดแรงกระตุ้น จีนได้ขยายการเปิดประเทศสู่นานาชาติเพื่อสร้างเครื่องยนต์ใหม่แห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัดฉีดพลังขับเคลื่อนใหม่แก่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศรายทาง"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ควบคู่ไปกับการพัฒนาแห่งยุคสมัย นัยของ"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ทวีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง การร่วมสร้างเส้นทางสายไหมเพื่อสุขภาพ เส้นทางสายไหมสีเขียว เส้นทางสายไหมดิจิทัลและเส้นทางสายไหมด้านนวัตกรรมกำลังกลายเป็นทิศทางใหม่แห่งการใช้ความพยายาม
เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า ในอนาคตข้างหน้า "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ย่อมจะสร้างคุณูปการได้มากและใหญ่ยิ่งขึ้นในการส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันทั่วโลกอย่างแน่นอน