ผู้นำจีนสนับสนุนการรวบรวมจิตรกรรมภาพเขียนจีนโบราณมานาน 17 ปี
ผู้เข้าชมที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 (Xinhua/Jin Liangkuai)
ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีนที่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งต่างตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการภาพเขียนจีนคลาสสิกความละเอียดสูง เช่นภาพที่มีชื่อว่า“เชี่ยนหลี เจียนซัน ถู”(พันลี้แห่งแม่น้ำและขุนเขา)
นิทรรศการนี้นำเสนอความสำเร็จของจีนในการรวบรวม “คอลเลกชันภาพเขียนจีนโบราณที่ครอบคลุม” ซึ่งเป็นผลงานโครงการของรัฐที่เกี่ยวข้องกับภาพเขียนจีนอย่างน้อย 12,405 ภาพ (ชุด) จากพิพิธภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศกว่า 260 แห่ง ตลอดจนสถาบันวัฒนธรรมอื่นๆ การรวบรวมครอบคลุมภาพเขียนจีนส่วนใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่ซึ่งจัดว่าเป็นสมบัติของชาติ โดยจนถึงขณะนี้มีภาพพิมพ์จำนวน 226 เล่ม ถ้าวางซ้อนกันจะสูงเท่ากับตึกสี่ชั้น
โครงการนี้จะสิ้นสุดในสิ้นปีนี้ นายสี จิ้นผิงให้การสนับสนุนโครงการนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อ 17 ปีที่แล้ว
การสนับสนุนที่ไม่เปลี่ยนแปลง
นายสี จิ้นผิงประทับใจแนวคิดริเริ่มในการสะสมตั้งแต่เเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2548 สมัยยังทำงานที่มณฑลเจ้อเจียง ที่ถือว่าเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในภาคตะวันออกของจีน โดยนายสี จิ้นผิงซึ่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียงได้ให้ไฟเขียวกับแนวคิดในการรวบรวมและจัดพิมพ์ภาพเขียนสมัยราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ.1503-1822) ซึ่งเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของพระราชวังทั้งสองฝั่งของช่องแคบไต้หวัน โดยกล่าวว่า “มันคุ้มค่ากับความพยายามของเรา” ต่อมาแนวคิดดังกล่าวได้ขยายไปสู่การรวบรวมภาพเขียนสมัยราชวงศ์ซ่งทั้งหมด และได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นโครงการระดับมณฑล หลังจากนายสี จิ้นผิงพ้นหน้าที่จากมณฑลในเดือนมีนาคม 2550 ก็ยังมีความห่วงใยโครงการนี้
ในปี พ.ศ.2553 โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากนายสี จิ้นผิงนี้ได้ยกระดับขึ้นเป็นโครงการสำคัญที่มุ่งรวบรวมภาพเขียนโบราณของจีนที่ครอบคลุมระหว่างศตวรรษที่สามก่อนคริสต์ศักราช และ พ.ศ. 2454 รวมภาพเขียนตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ฉิน (221 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ถึงราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) และภาพเขียนในสมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ.1814-1911) ราชวงศ์หมิง (พ.ศ.1911-2187) และราชวงศ์ชิง (พ.ศ. 2187-2454) พร้อมกับเวอร์ชั่นเพลง
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2555 นายสี จิ้นผิงได้รับเลือกเป็นเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาได้ให้คำแนะนำหลายอย่างเพื่อส่งเสริมโครงการนี้
ความร่วมมือระดับโลก
ความสำเร็จของโครงการจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความร่วมมือจากพิพิธภัณฑ์และสถาบันวัฒนธรรมกว่า 260 แห่งทั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ จากการสนับสนุนของนายสี จิ้นผิงในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ทำให้ทีมงานที่รับผิดชอบโครงการนี้ได้เปิดตัวแคมเปญทั่วโลก 3 แคมเปญเพื่อรวบรวมภาพภาพเขียนจีนโบราณ จนถึงขณะนี้ ทีมงานได้สร้างผลงานภาพเขียนจากคอลเลกชั่นภายในประเทศไปแล้ว 9,155 ภาพ (ชุด) และจากคอลเลกชั่นต่างประเทศจำนวน 3,250 ภาพ (ชุด) เฉพาะในสหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์และสถาบันวัฒนธรรม 30 แห่งได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับโครงการของจีน ดังนั้น ภาพเขียนจีนโบราณที่สวยงามกว่า 1,200 ภาพที่กระจายอยู่ทั่วประเทศจึงถูกสร้างขึ้นใหม่
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือนี้มิใช่เป็นความร่วมมือทางเดียว เพราะตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 จีนได้แบ่งปันผลสำเร็จของโครงการกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกผ่านการบริจาคหรือรูปแบบอื่นๆ ปัจจุบันสถาบันวัฒนธรรมในต่างประเทศเกือบ 190 แห่งได้ประโยชน์จากโครงการ
ความมั่นใจในวัฒนธรรม
ทีมผู้รับผิดชอบโครงการนี้ใช้เทคโนโลยีล่าสุด รวมถึง Virtual Reality (VR) ซึ่งก็คือการจำลองเทคโนโลยีให้เสมือนกับเป็นโลกอีกใบซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกับผู้ใช้งานได้อยู่ในสถานที่และเหตุการณ์นั้นจริงๆ และการพิมพ์ 3 มิติ เพื่อสร้างการติดตั้งภาพและเสียงแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์แบบพาโนรามาและหลายมิติของภาพวาดจีนและถ้ำพระพุทธรูป นับตั้งแต่มีการเปิดตัววิดีโอชุดภาพเขียนโบราณที่จำลองขึ้นในโครงการบนแพลตฟอร์มในประเทศเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2563 มีการเข้าชมกว่า 220 ล้านครั้ง
นายฟาน ตี้อัน (Fan Di'an) ประธานสมาคมศิลปินแห่งประเทศจีนกล่าวว่า การรวบรวมและจัดพิมพ์คอลเลคชันภาพเขียนจีนโบราณอย่างครอบคลุม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเชื่อมั่นในวัฒนธรรมของเรา เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้โครงการจะสิ้นสุดเร็วๆ นี้ ทว่าในเดือนตุลาคมปีนี้ นายสี จิ้นผิงมีคำสั่งเน้นย้ำให้ทีมงานที่รับผิดชอบ“เจาะลึกลงไปในรหัสพันธุกรรมของมรดกอารยธรรมจีนอย่างต่อเนื่องต่อไป และให้ความช่วยเหลือในเชิงบวกต่อไปเพื่อสานต่อวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมที่ดีงาม”