ซีรีย์ฮิตของจีนได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ

(People's Daily Online)วันศุกร์ 06 มกราคม 2023

ละครโทรทัศน์เป็นที่ต้องการของผู้ชมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่น ๆ    นายโกมินทร์ อ่าวอุดมพันธ์ (Komin Aoudomphan) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการพันธมิตรด้านคอนเทนต์ บริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัดซึ่งทำงานที่ทรูไอดี(TrueID) แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ยอดนิยมในประเทศไทยทุ่มสุดตัวเพื่อหาสาเหตุระเบิดบนรถเมล์ในซีรีส์จีนระทึกขวัญ เรื่องลูปย้อนชะตา(Reset)เขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนอดตาหลับขับตานอนเพื่อดูละคร 15 ตอนที่กรุงเทพฯ เมื่อต้นปีนี้ ซึ่งเป็นตอนที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เขาเล่าว่า“เพื่อนๆ ผมพูดถึงโครงเรื่อง นักแสดงนำชายและหญิงในซีรีส์นี้มีเสน่ห์และดึงดูดความสนใจ” โดยทรูไอดี(TrueID)ได้เปิดตัวซีรีย์จีนเรื่องลูปย้อนชะตา(Reset)ในประเทศไทยเมื่อต้นปีนี้

ซีรีส์เล่าถึงการเดินทางของนักศึกษาวิทยาลัยและนักออกแบบเกมที่ติดอยู่ใน “วงจรเวลา” ขณะที่พวกเขาค้นหาความจริงเบื้องหลังเหตุระเบิดบนรถบัส ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งหมดบนรถบัส ซีรีส์มีผู้ชมมากกว่า 2 พันล้านครั้งในประเทศจีนและประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเนื้อหาภาษาจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนที่แล้ว TrueID จึงได้จัดตั้งแผนกโทรทัศน์สำหรับภาษาจีนโดยเฉพาะซึ่งมีซีรีส์ยอดนิยมมากมาย

นายหวัง ซวง (Wang Shuang) ผู้รับผิดชอบตลาดต่างประเทศของวีทีวี (WeTV) เวอร์ชันสากลของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชั้นนำของจีน Tencent Video กล่าวว่า “คอนเทนต์จีนกำลังได้รับความนิยมไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ตามข้อมูลของหวัง ความต้องการละครจีนเพิ่มสูงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งซีรีส์จีนแซงหน้าซีรีส์เกาหลีใต้ ตามมาด้วยซีรีส์ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป

ทั่วโลกมีการดาวน์โหลด WeTV ประมาณ 150 ล้านครั้ง โดยประมาณ 30 ล้านครั้งมาจากประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรน้อยกว่า 70 ล้านคน

ศาสตราจารย์ลู่ ตี้ (Lu Di) อาจารย์คณะวารสารศาสตร์และการสื่อสารแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่ละครจีนเติบโตเต็มที่ ประเทศนี้อยู่ใกล้กับจีนในเชิงภูมิศาสตร์และผู้คนจากทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่างทั้งในด้านชีวิตประจำวันและวัฒนธรรม การสื่อสารและการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนกับไทยมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล-ค.ศ. 220)”พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นของซีรีส์จีนในประเทศอื่นๆ ของเอเชียมีสาเหตุหลักมาจากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ดึงดูดคนหนุ่มสาว ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ของละครเหล่านี้ในต่างประเทศ

ส่งออกบูม

การส่งออกละครโทรทัศน์ของจีนกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด ตามรายงานเกี่ยวกับการเผยแพร่ละครดังกล่าวในต่างประเทศที่เผยแพร่โดยสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีน (National Radio and Television Administration) ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกซีรีส์โทรทัศน์อยู่ที่ 56.83 ล้านดอลลาร์ และจีนส่งออกละครโทรทัศน์ 714 เรื่องในช่วงเวลานี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดหลักสำหรับละครเหล่านี้ โดยคิดเป็น 1 ใน 3 ของซีรีส์ที่ส่งออก รายงานยังระบุด้วยว่าในเอเชียผู้ชมที่เป็นสตรีโดยเฉพาะผู้ที่เกิดหลังปี 2533 และ 2543 เป็นคนส่วนใหญ่ที่ชอบดูซีรีส์จีน นายหวัง ซวงจาก WeTV กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงอายุน้อยกว่า 30 ปี หลายคนถูกตรึงด้วยความรักในเครื่องแต่งกายจีน ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศ

ละครเครื่องแต่งกายจีนเรื่องเทียบท้าปฐพี(Who Rules the World) นำแสดงโดย หยาง หยาง (Yang Yang) และ เจ้า ลู่ซือ (Zhao Lusi) กลายเป็นที่ฮือฮาในประเทศไทยหลังจากออกอากาศทาง WeTV ในเดือนพฤษภาคม โดยเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวความรักระหว่างหญิงสาวกับชายหนุ่มที่ประชันศิลปะป้องกันตัวจนฝ่าฟันโลกไปด้วยกันในที่สุด จัดว่าเป็นละครโรแมนติกมีผู้ชมหลายร้อยล้านครั้ง

ดาราจีนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ได้แก่หยาง หยาง เซียว จ้าน หยาง มี่ และ ตี๋ลี่เร่อปา มักแสดงนำซีรีย์โรแมนติกยอดนิยม นายหวัง ซวงกล่าวว่า “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำดาราเหล่านี้มาที่ประเทศไทยเพื่อให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบได้พบปะพวกเขา” พร้อมเสริมว่า ก่อนหน้านี้ นโยบายควบคุมการแพร่ระบาดทำให้แฟนๆ ชาวไทยไม่สามารถพบกับดาราที่พวกเขาชื่นชอบได้ เมื่อปี 2562 เมื่อ WeTV จัดงานแบบออฟไลน์ที่ศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยมีสองนักแสดงนำจากซีรีส์โรแมนติกของจีนไปโชว์ตัวปรากฏว่ามีแฟนๆมาชมกันแน่น นายหวังระบุ“ประทับใจมากมีคนมากมาย ดาราจีนสองคนไม่ได้รับความนิยมที่บ้าน แต่เพราะพวกเขาเล่นเป็นตัวเอกในซีรีส์โรแมนติก คนไทยจึงรักมาก”

ซีรีส์เรื่องอุ่นไอในใจเธอ (Put Your Head on My Shoulder) เป็นผลงานการผลิตขนาดเล็กที่เล่าถึงเรื่องราวความรักระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวที่เพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัย เป็นละครจีนเรื่องแรกที่ WeTV นำเข้าประเทศไทย ละครจีนยอดนิยมหลายเรื่องได้รับการแนะนำโดยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งในปี 2562 ได้ตั้งทีมงานประมาณ 30 คนในกรุงเทพฯ นายหวังกล่าวว่า“แม้หลังปี 2563 เราไม่สามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบออฟไลน์ได้ เนื่องจากโรคระบาด แต่ทุกปีจำนวนสมาชิกของเราก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ชั้นนำอื่นๆ ของจีน ก็เปิดบริการในต่างประเทศและเลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งหลักในการดำเนินธุรกิจ

ในเดือนมิถุนายน 2565 อ้ายฉีอี้ (iQiyi) ได้เปิดตัวเวอร์ชันต่างประเทศและเน้นการนำเสนอซีรีส์ความรักสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แมงโก้ทีวี(Mango TV) กล่าวว่ากำลังตั้งศูนย์สื่อสารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อรองรับตลาดต่างประเทศหลังจากร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติลาวตามรายงานที่ออกโดยมีเดียพาร์ทเนอร์ส์ เอเชีย วีทีวี (Media Partners Asia)  WeTV ครองตลาดสตรีมมิ่งในประเทศไทยร้อยละ 22 ในขณะที่ Netflix ครองตลาดร้อยละ 24 อย่างไรก็ตาม นายหวังกล่าวว่าพวกเขายังคงต้องร่วมมือกับคู่ค้าชาวจีนเพื่อปรับปรุงความนิยมของซีรีส์จีน โดยหวังกล่าวว่า“ผมคิดว่าเรา (แพลตฟอร์มสตรีมมิงของจีน) ควรร่วมมือกันอย่างจริงจังในการโปรโมตละครจีน เพื่อให้พวกเขาเข้าถึงผู้ชมต่างประเทศในวงกว้างขึ้น เรายังน่าจะอยู่บนเส้นทางที่จะร่วมมือกัน มากกว่าที่จะแข่งขันกันเอง”

ความพยายามร่วมกัน

นอกเหนือจากการแนะนำซีรีส์ในประเทศสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว แพลตฟอร์มและบริษัทของจีนจำนวนมากขึ้นกำลังผลิตเนื้อหาท้องถิ่นโดยทำงานร่วมกับทีมงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างเช่น WeTV ได้ผลิตภาพยนตร์โรแมนติกในมหาวิทยาลัยของไทยเรื่องกลรักรุ่นพี่ (Love Mechanics) ละครเรื่องเมียหลวง(The Wife)  โดยนายหวังได้อธิบายถึงแนวคิดในการสร้างคอนเทนต์ต้นฉบับโดยดาราและนักแสดงในท้องถิ่น โดยกล่าวว่า “เราพยายามสร้างกระแสให้กับชุมชนท้องถิ่น เมื่อผู้คนใช้แอปของเราเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ต้นฉบับในท้องถิ่น พวกเขายังสามารถเลือกคอนเทนต์จีนที่เราจัดหาให้ได้อีกด้วย”

สำหรับบริษัทเซ็นจูรี่ ยูยู (Century UU) ผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตในเทียนจิน การผลิตละครโดยทีมงานจากไทยเพื่อเจาะกลุ่มผู้ชมในประเทศจีนและประเทศไทยเป็นโอกาสที่ดีในการตอบสนองความต้องการในอนาคต เซ็นจูรี่ ยูยู ได้ซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์เกาหลียอดนิยม 3 เรื่อง และผลิตในไทยโดยทีมงานท้องถิ่น ซีรีส์ที่ออกอากาศในจีนและไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี นายหลี่ ฝูเต๊อะ (Li Fude) ผู้ก่อตั้งเซ็นจูรี่ ยูยู กล่าวว่า “สะดวกและง่ายมากในการรวมทรัพยากรทั้งหมดที่เราต้องการเพื่อผลิตต้นฉบับดังกล่าว และไม่แพงเท่ากับการถ่ายทำในประเทศจีน”     ตอนที่บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2555 บริษัทได้นำเสนอละครโทรทัศน์ไทยไปยังประเทศจีนเป็นหลัก และจำหน่ายซีรีส์จีนอื่นๆ ในต่างประเทศ หลังจากทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปี บริษัทได้พบโอกาสใหม่ๆ ในการร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อร่วมกันผลิตคอนเทนต์ต้นฉบับ

นายหลี่กล่าวว่า “เราสร้างเนื้อหาที่ปรับแต่งโดยคำนึงถึงรสนิยมของผู้ชมจากประเทศต่างๆ” ตัวอย่างเช่น ทีมงานของเขาได้เพิ่มองค์ประกอบหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาหารไทยลงในซีรีส์โรแมนติกเพื่อปรับปรุงการผลิตดั้งเดิม บริษัทได้ตั้งโรงถ่ายทำพร้อมเทคโนโลยีระดับสูง ในปีนี้เซ็นจูรี่ ยูยูได้เปลี่ยนกลยุทธ์การจัดจำหน่ายโดยเลิกการเผยแพร่ซีรีส์หนึ่งผ่านพันธมิตรรายเดียว แต่หันมาทำเป็นแพ็คเกจของซีรีย์แทน ตัวอย่างเช่น ได้ร่วมกับทรูไอดีเปิดส่วนที่เป็นซีรีย์จีนโดยเฉพาะ ส่วนนี้ประกอบด้วยละครจีนประเภทต่างๆ เช่น ซีรีส์เครื่องแต่งกายและการผลิตสมัยใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมจีนมีชีวิตชีวาเพียงใด โดยหลี่กล่าวว่า“นี่เป็นวิธีที่ดีในการเสนอทางเลือกให้กับผู้ชมในต่างประเทศ”

บริษัทของเขายังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคอนเทนต์ชั้นนำจากจีนบน YouTube มีสมาชิกมากกว่า 27 ล้านคนและครอบคลุม 13 ภาษาโดยจำนวนผู้ใช้บริการจากรัสเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศอาหรับแต่ละประเทศมีมากกว่า 1 ล้านราย นายหลี่กล่าวว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากตลาดหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว จำนวนผู้ติดตามในประเทศอาหรับก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และรายการโปรดของพวกเขาคือซีรีส์สมัยใหม่ที่บอกเล่าเรื่องราวโรแมนติกเกี่ยวกับหนุ่มสาวจีน

ตามรายงานที่เผยแพร่โดยสำนักงานวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติจีน (National Radio and Television Administration) ในเดือนพฤศจิกายน ประเทศอาหรับกำลังกลายเป็นตลาดที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับละครจีน ซีรีส์ประวัติศาสตร์และละครสมัยใหม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเหล่านี้

ในเดือนนี้ ซีรีส์จีนยอดนิยมเรื่อง Minning Town เวอร์ชั่นภาษาอาหรับ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของความยากจนที่กำจัดหมู่บ้านชนบท ออกอากาศในหลายประเทศอาหรับ

นายหม่า หนิง (Ma Ning) ผู้ก่อตั้งบริษัทวิสดอม เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล คัลเจอร์ คอมมิวนิเคชั่น กรุ๊ป จำกัด(Wisdom House International Culture Communication Group) ซึ่งใช้ชื่อละครว่า Minning Town ในภาษาอารบิก กล่าวว่า “ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเพิ่มขึ้นของละครจีนในโลกอาหรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเปิดตัว Minning Town” สะท้อนว่า “ผู้คนในประเทศอาหรับต้องการทราบความลับของความสำเร็จของจีนผ่านละคร”