“จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมายแห่งยุคสมัยไม่มีเสื่อมคลาย
องปธน.สี จิ้นผิงในฐานะประธานาธิบดีจีน สองประเทศประกาศการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันที่มั่นคงยิ่งขึ้น เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นและพัฒนาอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น ให้คำว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมายแห่งยุคสมัยที่ไม่เสื่อมคลาย
ค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2022 ปธน.สี จิ้นผิง เข้าเฝ้าฯ ในหลวง-พระราชินี ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นการพบปะกันครั้งแรกระหว่างปธน.สี จิ้นผิง กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่าพระองค์เคยเสด็จฯ เยือนจีนหลายครั้ง ได้สัมผัสกับขุนเขาสายน้ำที่สวยงาม ความมีชีวิตชีวาและมนต์เสน่ห์ ตลอดจนการพัฒนาที่ก้าวหน้าของประเทศจีนด้วยตนเอง ปธน.สี จิ้นผิง มีผลงานที่ยอดเยี่ยมในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะในด้านการขจัดความยากจนและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ขอแสดงความชื่นชม
ด้าน ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวในการพบปะว่า จีนยินดีที่จะร่วมกับไทยเชิดชูไมตรีจิตอันพิเศษ “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” อย่างต่อเนื่อง ร่วมกันสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน และเขียนบทใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ด้านพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่าไทยยินดีกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
จีนกับไทยมีประวัติศาสตร์การไปมาหาสู่กันฉันมิตรมานับพันปี “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” หยั่งรากลึกลงในจิตใจของผู้คน ปีนี้เป็นปีครบรอบ 10 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-ไทย 10 ปีมานี้ มิตรภาพสองประเทศมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลงลึกความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาใหม่ การที่ปธน.สี จิ้นผิงในฐานะประธานาธิบดีจีนเยือนไทยเป็นครั้งแรก มีความหมายสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองประเทศเน้นว่า เพิ่มพูนความเชื่อถือ ความเข้าใจและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในปัญหาหลักการสำคัญด้านอธิปไตย ความเป็นเอกภาพและบูรณภาพเหนือดินแดน
ทั้งสองประเทศประกาศ “แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันที่มั่นคงยิ่งขึ้น เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นและพัฒนาอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น” เพื่อชี้นำการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต การที่จีนกับไทยสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันนั้นสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระดับสูง จะผนึกกำลังที่เป็นสากลมากขึ้นในการสร้างประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน
ในช่วงกลางวันของวันที่ 19 พฤศจิกายนปี 2022 ปธน.สี จิ้นผิง 19 พฤศจิกายนทของจีนพบปะหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย เมื่อปี 2014 เป็นต้นมา ปธน.สี จิ้นผิงของจีนได้ต้อนรับท่านมาเยือนจีน 5 ครั้ง โดยเดือนพฤศจิกายน 2014 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยก็เดินทางมาจีนเพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปค ปธน.สี จิ้นผิงของจีนได้พบปะกับท่าน
ส่วนการเยือนไทยของ ปธน.สี จิ้นผิงของจีนครั้งนี้ ความร่วมมือด้านการขนส่งทางรางเป็นไฮไลท์ใหญ่ของสองประเทศ ในการพบปะกันวันนั้น ปธน.สี จิ้นผิงระบุว่า ต้องเร่งความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างจีน-ลาว-ไทยสามฝ่าย ผลักดันแนวคิดการพัฒนาด้านการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทย เร่งการเชื่อมโยงทั้งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และโลจิสติกส์ผ่านด่าน ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็กล่าวว่าต้องเร่งการก่อสร้างรถไฟไทย-จีนและเชื่อมโยงกับรถไฟจีน-ลาว ปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาด้านการเชื่อมโยงระหว่างจีน-ลาว-ไทย
โดยรถไฟไทย-จีนจะใช้เทคโนโลยีรถไฟหัวกระสุนตามมาตรฐานขบวน “ฟู่ซิง” ของจีน การเยือนไทยของปธน.สี จิ้นผิงของจีนในครั้งนี้ยังได้นำตัวอย่างรถไฟหัวกระสุน “ฟู่ซิง” ของจีน มอบเป็นหนึ่งในของที่ระลึกแห่งชาติให้กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความปรารถนาดีว่า ความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน-ไทยมีความอบอุ่นขึ้นและเร่งความเร็ว เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ในขณะที่ปธน.สี จิ้นผิงของจีนเยือนไทยนั้น ไชน่ามีเดียกรุ๊ปกับกรมประชาสัมพันธ์ไทยมีความเห็นพ้องต้องกันและเตรียมลงนามในบันทึกช่วยจำความร่วมมือระหว่างสององค์กร โดยจะสร้างกลไกความร่วมมือที่เป็นปกติ ขยายความร่วมมือด้านสื่อ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านอารยธรรมและการติดต่อกันระหว่างประชาชนสองประเทศ เพื่อให้ “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีความหมายแห่งยุคสมัยใหม่ และทุ่มเทกำลังในการร่วมสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน