หนุ่มสาวจีนชอบไปพิพิธภัณฑ์มากขึ้น

ตามข้อมูลที่ออกโดย Trip.com Group ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมปีที่แล้ว พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์
และห้องจัดแสดงนิทรรศการติดอันดับ 4 ใน 10 จุดชมวิวที่ได้รับความนิยมสูงสุด และ 25 เปอร์เซ็นต์
ของการจองพิพิธภัณฑ์เป็นผู้ที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2538 (ซินหัว)

ในช่วงวันหยุด เยาวชนชาวจีนจำนวนมากกระตือรือร้นที่จะชวนเพื่อน ๆ ไปชมนิทรรศการตามพิพิธภัณฑ์และชื่นชมเสน่ห์ของวัฒนธรรมดั้งเดิม “สังคมชมนิทรรศการ” ได้ค่อยๆ กลายมาเป็นกิจกรรมทางสังคมยอดนิยมสำหรับเยาวชน

ตามข้อมูลที่ออกโดย Trip.com Group ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมในปี 2565 พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และห้องจัดแสดงนิทรรศการติดอันดับ 4 ใน 10 จุดชมวิวที่ได้รับความนิยมสูงสุด และ 25 เปอร์เซ็นต์ของการจองพิพิธภัณฑ์เป็นผู้ที่เกิดหลังปี พ.ศ 2538   โจว เซีย วัย 26 ปีชาวเมืองหนานจิงเมืองเอกของมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีนเผย “ทุกครั้งที่ฉันไปพิพิธภัณฑ์ ฉันมีโอกาสพบคนรักพิพิธภัณฑ์มากมาย นอกจากนี้เรายังตั้งกลุ่ม WeChat เพื่อแบ่งปันข้อมูลนิทรรศการยอดนิยมและชมนิทรรศการด้วยกัน”

จากข้อมูลของสำนักงานบริหารมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติ ณ สิ้นปี 2565 จำนวนพิพิธภัณฑ์ในจีนเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 6,183 พิพิธภัณฑ์ จากปี 2555 ที่มีเพียง 3,069 พิพิธภัณฑ์ ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมที่เป็นเยาวชนเพิ่มขึ้น พิพิธภัณฑ์ต่างๆ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างสรรค์ซึ่งปรับให้เหมาะกับกลุ่มผู้เข้าชมกลุ่มนี้ ทุกเช้าสถานที่เกือบทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์นานกิงจะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวเยาวชน พวกเขาค่อยๆเลื่อกไปรษณียบัตรและเข้าแถวยาวเพื่อรอประทับตราด้วยภาพโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่รวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑ์

เหลียน ไค รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของพิพิธภัณฑ์นานกิงเผยว่าคนหนุ่มสาวชอบสะสมแสตมป์ และความหลงใหลในแสตมป์ก็เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมด้วย โดยสังเกตว่าทุกครั้งที่พิพิธภัณฑ์เปิดตัวนิทรรศการใหม่ ภาพบนแสตมป์ก็เปลี่ยนตามไปด้วย สิ่งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนรุ่นใหม่และทำให้วัฒนธรรมดั้งเดิมมีชีวิตชีวา

พิพิธภัณฑ์หลายแห่งทั่วประเทศได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ เช่น กล่องปริศนาในธีมโบราณคดี กล่องบางกล่องบรรจุตัวอย่างดินที่มีวัตถุโบราณขนาดเล็กอยู่ภายใน และนักสะสมสามารถขุดได้ด้วยพลั่วขนาดเล็กและเครื่องมืออื่นๆ

เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์อู๋ซีในมณฑลเจียงซูเปิดตัวนิทรรศการโบราณวัตถุจากยุคสำริดนอกเหนือจากการแนะนำแสตมป์ตามนิทรรศการเพื่อดึงความสนใจของหนุ่มสาว ทางดารท้องถิ่นยังจะเปิดตัวคอลเลกชันดิจิทัลจำนวนจำกัด 1,000 เล่ม ของดาบที่มีอายุย้อนไปถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง (227-67 ปีก่อนพุทธศักราช) โดยสำเนาดิจิทัลแต่ละเล่มมีราคา 59 หยวน (ประมาณ 8.6 ดอลลาร์)

พิพิธภัณฑ์แบบดั้งเดิมหลายแห่งยังใช้ของสะสมดิจิทัลเพื่อดึงคนหนุ่มสาวมากขึ้น พวกเขาแปลงของสะสมเป็นดิจิทัลผ่านการออกแบบดั้งเดิมและขายให้กับผู้บริโภคทางออนไลน์ รวมถึงเพลง แอนิเมชัน เกม หุ่นจำลอง เป็นต้น

ในปีพ.ศ. 2565 บริษัทประมูลงานศิลปะแบบดั้งเดิมในเมืองนานกิงทางตะวันออกของจีนได้เปิดตัวของสะสมดิจิทัล 9 ชิ้นที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมประเภทภาพวาดและการประดิษฐ์ตัวอักษร โดยมียอดจำหน่ายรวม 45,000 เล่ม พวกเขาขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงสองนาที โดยมียอดขายรวม 2.7 ล้านหยวน

ตามรายงานที่ออกโดยบริษัทวิจัยไอรีเสิร์ช (iResearch) ตลาดของสะสมดิจิทัลของจีนมีมูลค่าถึง 280 ล้านหยวนในปี 2564

กั๋ว ไต้จิง เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์อู๋ซี กล่าวว่าสำหรับโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมของพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์ ของสะสมดิจิทัลยังตอบสนองความอยากอาหารของคนรุ่นใหม่ ไม่เพียงดึงความสนใจของเยาวชนจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้พวกเขาเข้าใกล้โบราณวัตถุทางวัฒนธรรม เข้าใจประวัติศาสตร์ และจุดประกายความรักในวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม