ฉงชิ่งและอาเซียนเชื่อมโยงด้วยเส้นทางการส่งสินค้า
![]() |
รถไฟขนส่งสินค้าออกเดินทางจากนครฉงชิ่งไปประเทศเมียนมาร์ในเดือนเมษายน (ซินหัว/ถาง อี้) |
ทางเลือกใหม่ในการขนส่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาเกือบครึ่ง
รถไฟบรรทุกสินค้าขบวนแรกที่ให้บริการเส้นทางใหม่เชื่อมระหว่างนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันพฤหัสบดี (14 มิ.ย.) ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 13 วัน
เส้นทางรถไฟใหม่นี้นับเป็นความสำเร็จอีกประการในการส่งเสริมความเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนการค้าของจีน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน ก่อนหน้าที่จะเปิดเส้นทางนี้ สินค้าส่งออกจากเมือง ต่าง ๆ ของจีนจะต้องถูกส่งไปที่เซี่ยงไฮ้ก่อน เพื่อขนส่งทางทะเล ซึ่งต้องใช้เวลา 25 วันในการขนส่งถึงปาดังเบซาร์
ปัจจุบัน ด้วยการมีระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศ (International Land-Sea Trade Corridor หรือ ILSTC) โครงการขนส่งขนาดใหญ่ระหว่างประเทศที่จีนและประเทศคู่ค้าเข้าร่วม ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการขนส่งจากมณฑลต่าง ๆ ในประเทศไปสู่มาเลเซียลงเกือบครึ่งหนึ่ง
เกา เฉิงหลิน ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทโลจิสติกส์ ยวี่ซินโอ (ฉงชิ่ง) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเส้นทางดังกล่าว กล่าวว่า “การดำเนินงานของเส้นทางใหม่นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่าให้กับเส้นทางโลจิสติกส์ระหว่างฉงชิ่งและมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังช่วยลดเวลาและต้นทุนอีกด้วย”
ผู้ประกอบการกล่าวว่า “รถไฟบรรทุกสินค้าที่วิ่งในเส้นทางนี้ออกจากสถานีรถไฟถวนเจียชุนใน ฉงชิ่ง มุ่งหน้าสู่เวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาวโดยรถไฟจีน-ลาว จากนั้นใช้เส้นทางรถไฟในประเทศไทยก่อนถึงปาดังเบซาร์ เมืองชายแดนมาเลเซีย-ไทย”
ทางรถไฟจีน-ลาวที่เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารและ การขนส่งสินค้าจนถึงปัจจุบันเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ ทางรถไฟกลายเป็นช่องทางสำคัญระหว่างผู้ค้าจากมณฑลต่าง ๆ ของจีน 25 แห่งกับตลาดอาเซียน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการโซลูชั่นติดตามผลการจัดส่งสำหรับลูกค้า เช่น บริการส่งถึงบ้าน หลังจากรถไฟบรรทุกสินค้ามาถึงนครฉงชิ่ง ตั้งอยู่บนต้นน้ำลำธารของแม่น้ำแยงซีเกียง มีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญ และเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ นครแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับโครงการพัฒนาในภูมิภาคตะวันตกของจีน และเป็นจุดเชื่อมต่อที่ให้บริการตามโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีเกียง
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 รถไฟบรรทุกสินค้าขบวนแรกที่ขนส่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในฉงชิ่งได้เริ่มออกเดินทางบนเส้นทางด่วนฉงชิ่ง-ซินเจียง-ยุโรป การเชื่อมโยงด้วยความยาวกว่า 11,000 กิโลเมตร เริ่มต้นในฉงชิ่ง ข้ามพรมแดนที่อาลาชานโข่ว เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ผ่านคาซัคสถาน รัสเซีย เบลารุส และโปแลนด์ ก่อนถึงเมืองดืสบวร์ค ประเทศเยอรมนี
การเดินทางใช้เวลาประมาณ 16 วัน ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของเวลาของเส้นทางเดินเรือ และทำให้ฉงชิ่ง (ซึ่งอยู่ไกลจากชายฝั่ง) เป็นประตูสู่ตลาดตะวันตก
โครงการนี้ถูกนำไปใช้กับเมืองใหญ่หลายแห่งของจีนในเวลาต่อมา และเรียกโดยรวมว่า “ทางด่วนจีน-ยุโรป (China-Europe Express)”
ในปี พ.ศ. 2564 บริษัทโลจิสติกส์ฯ เปิดเดินรถไฟระหว่างประเทศจากฉงชิ่งไปยังลาว ไทย และเมียนมาร์ และตระหนักถึงการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วด้วยทางด่วนระหว่างจีน-ยุโรป ทำให้ฉงชิ่งเป็นนครที่มีเครือข่ายรถไฟระหว่างประเทศที่ครอบคลุมยุโรปและเอเชีย
ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทโลจิสติกส์ฯ กล่าวว่า “ปัจจุบัน รถไฟระหว่างประเทศจีน-เวียดนาม จีน-ลาว-ไทย และจีน-เมียนมาร์ กลายเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับการขนส่งในตลาดอาเซียนและยุโรป”
เส้นทางการขนส่งทางบกและทางทะเลขึ้นอยู่กับการใช้รูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย รวมทั้งทางรถไฟ ทางหลวง และทางน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เครือข่ายโลจิสติกส์ของ ILSTC ได้เชื่อมต่อยุโรปกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีฉงชิ่งเป็นศูนย์กลางรถไฟที่สำคัญ และปัจจุบันเดินทางถึงท่าเรือ 393 แห่งใน 119 ประเทศและภูมิภาค