รัฐมนตรีต่างประเทศจีนชี้ “ความร่วมมือจีน-อาเซียนสดใส”
จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสมาชิกอาเซียนเพื่อดำเนินการความสัมพันธ์แบบพหุภาคีที่แท้จริง
นายฉิน กัง มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการประชุมฟอรั่มอาเซียนว่า “จีนและอาเซียนเป็นตัวอย่างที่ดีในความร่วมมือที่มีผลและเห็นได้ชัดเจนมากที่สุดในทวีปเอเชีย-แปซิฟิก”
“จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับอาเซียนและคงเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน เคารพไว้ใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนที่ดีในการสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน” ฉิน กังกล่าวในข้อความแสดงความยินดีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่กรุงจาการ์ตาในฟอรั่มความสัมพันธ์อาเซียน-จีน ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี การเข้าร่วมสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia)
จีนเข้าร่วมสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2546 นับเป็นประเทศใหญ่รายแรกที่เข้าร่วมและสถาปนาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับอาเซียน
นายฉิน กังกล่าวว่า “กว่า 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในทศวรรษที่แล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเริ่มแนวความคิดในการสร้างชุมชนจีน-อาเซียนที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วยอนาคตร่วมกัน จีนและอาเซียนประสบความสำเร็จในการเดินตามหนทางของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันและมีการพัฒนาร่วมกัน”
“จีนจะทำงานร่วมกับอาเซียนในการยึดมั่นต่อวัตถุประสงค์และหลักการของ TAC ปฏิบัติตามพหุภาคีนิยมที่แท้จริงและปกป้อง ระเบียบและกฎกติกาของภูมิภาคเพื่อรักษาสันติภาพที่ยากจะเอาชนะและการพัฒนาในภูมิภาคนี้”
ความพยายามได้รับการชื่นชม
การสนับสนุนความร่วมมือและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของจีนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอทำให้ผู้นำอาเซียนและผู้บรรยายในที่ประชุมต่างชื่นชม
ดร. เกา กิม ฮวน (Dr. Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียนเน้นย้ำว่า “บทบาทของจีนมีความสำคัญในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนหลักของอาเซียนในการสนับสนุนความพยายามเพื่อสร้างประชาคมร่วม ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักในการสร้างสันติภาพในภูมิภาค”
ดร.เกา ยังสะท้อนให้เห็นว่า การครบรอบ 20 ปีของจีนในการลงนามสนธิสัญญา TAC และการอุทิศตนของจีนช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียนในอนาคต
ภู โสธิรักษ์ (Pou Sothirak) ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อความร่วมมือและสันติภาพกัมพูชากล่าวว่า “หลักการของ TAC ยืนยันถึงหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 5 ประการ (Five Principles of Peaceful Coexistence)”
นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายหลี่ จ้าวซิง อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจีนต่างเข้าร่วมประชุมฟอรั่มนี้ด้วย
ชุ่ย เทียนไข่ (Cui Tiankai) อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีนและเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ดำเนินการอภิปรายเกี่ยวกับความคืบหน้าสองทศวรรษของทั้งสองฝ่าย ซึ่งสอดคล้องกับจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือตามสนธิสัญญา TAC นอกจากนี้ ดิโน พัททิ ตาลาล (Dino Patti Djalal) ผู้ก่อตั้งและประธานสมาคมนโยบายต่างประเทศของอินโดนีเซียขึ้นเป็นประธานในช่วงการประชุมเรื่อง การสำรวจความท้าทายและโอกาสสำหรับการนำ TAC ไปปฏิบัติ
Aleksius Jemadu ศาสตราจารย์ด้านการเมืองและคณบดีคณะสังคมศาสตร์และการเมืองมหาวิทยาลัย Pelita Harapan ในอินโดนีเซียกล่าวว่า “ความท้าทายหลักในการปฏิบัติตามหลักการของ TAC รวมถึงคำถามที่ว่าประเทศสมาชิกในอาเซียนลงแรงลงใจร่วมกันมากแค่ไหนเมื่อมีผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของพวกเขาเป็นเดิมพัน หรือกล่าวอีกอย่างว่า “ประสิทธิผลของ TAC ขึ้นอยู่กับว่าทุกภาคส่วนจะยอมรับและสร้างมันให้เกิดขึ้นอย่างไร”
โหว เยี่ยนฉี เอกอัครราชทูตจีนประจำอาเซียนกล่าวปิดท้ายว่า “ทั้งสองฝ่ายกำลังอุทิศตนต่ออนาคตที่ดีกว่าของทวีปเอเชียในการสร้างประชาคมจีน-อาเซียนที่มีอนาคตร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น”
