คณะทัวร์ชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกท่องเที่ยวในซินเจียง พร้อมไลฟ์สดบนโซเชียลมีเดีย ขจัดข่าวลือ
คณะทัวร์ชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคซินเจียงของจีน หลังจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางเนื่องจากโควิด-19 ของจีน โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากถ่ายทอดสดสิ่งที่พวกเขาเห็นและได้ยินในภูมิภาคแห่งนี้ ทำให้ผู้คนในญี่ปุ่นและประชาคมระหว่างประเทศจำนวนมากขึ้นเข้าใจภูมิภาคนี้ดียิ่งขึ้น ท่ามกลางการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จจากภาคส่วนที่ต่อต้านจีน
กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 20 คน ออกเดินทางจากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประจำภูมิภาคและนิทรรศการต่อต้านการก่อการร้ายในเมืองอุรุมชี รวมทั้งแหล่งวัฒนธรรมและจุดชมวิวในเมืองเทอร์ปัน (Turpan) ทางตอนเหนือและตะวันออกของภูมิภาค และมีกำหนดเดินทางเยี่ยมชมไร่ฝ้าย โรงงาน โรงเรียน มัสยิด และบ้านของชาวเมืองต่าง ๆ ทางตอนใต้ของซินเจียง ได้แก่ คอร์ลา (Korla) อักซู (Aksu) และกาชิ (Kashi)
นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นหลายคนประทับใจการเยี่ยมชมภูมิภาคนี้อย่างมาก หลายคนบอกกับสำนักข่าว Global Times ว่า ภูมิภาคที่พวกเขาได้เห็นนั้นแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาเคยเรียนรู้จากสื่อญี่ปุ่นบางฉบับ
ริวโกะ โมริทากะ วัย 66 ปี รอคอยการมาเยือนภูมิภาคซินเจียงเป็นเวลานาน ในเดือนธันวาคม 2564 เมื่อได้ทราบข่าวจากสถานกงสุลจีนในโอซาก้าว่า ทางกงสุลกำลังเชิญชาวญี่ปุ่นให้ไปท่องเที่ยวในภูมิภาคซินเจียงหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยุติลง หลังจากตรวจข้อมูลบนเว็บไซต์ของสถานกงสุลฯ เขาและภรรยาตัดสินใจร่วมงานดังกล่าว
ด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประมาณ 350,000 เยน หรือ ประมาณ 86,289 บาทต่อคน ทั้งสองได้ตัดสินใจให้ โมริทากะเดินทางไป
ก่อนเดินทางมาจีน ภรรยาของเขาเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยในซินเจียงอย่างมาก ด้วยข่าวที่เคยทราบมาจากสื่อ อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินทางถึงซินเจียง เขาก็ยังรู้สึกปลอดภัย
ช่วงที่โมริทากะอยู่ในเมืองอุรุมชี เขาได้ไปชมจัตุรัสใกล้กับโรงแรมในตอนเช้าของวันที่ 2 มิ.ย. ได้เห็นภาพชาวบ้านทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย บางคนกำลังฝึกไทเก๊ก เต้นรำ จูงสุนัขและเล่นเตะลูกขนไก่
เนื่องจากโมริทากะเป็นนักถ่ายภาพเขาบอกกับ Global Times ว่า เขารักการถ่ายภาพผู้คนและสังเกตอารมณ์คนเพราะสิ่งเหล่านี้สะท้อนภาพที่แท้จริงของความรู้สึกลึก ๆ ภายในของพวกเขา
การเดินทางพร้อมไลฟ์สด
สมาชิกในกลุ่มทัวร์ชาวญี่ปุ่นหลายคนรวมถึง ยูมิ วาตาเบะ ต่างแชร์รูปภาพและวิดีโอเกี่ยวกับการเดินทางบนโซเชียลมีเดีย
ยูมิ วาตาเบะ วัย 33 ปี โค้ชสอนสกีจากเมืองฮาคุบะในญี่ปุ่นได้เดินทางไปหลายเมืองในประเทศจีนก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 ในปี 2557 หลังจากทริปแรกในมณฑลยูนนาน เธอเริ่มเรียนภาษาจีนเพื่อทำความเข้าใจจีนมากยิ่งขึ้น และการเยือนซินเจียงครั้งนี้เป็นทริปครั้งที่ 7 ในการมาเยือนจีน
วาตาเบะบอกกับ Global Times ว่า “การต่อสู้ทางคำพูด” ระหว่างเซวีย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีนในเมืองโอซาก้าและนักการเมืองญี่ปุ่นบางคนในหัวข้อซินเจียง ดึงดูดความสนใจของเธอและเธอตัดสินใจสมัครเดินทางเยือนภูมิภาคนี้
อาหารที่น่าอร่อยและภูมิประเทศที่สวยงามดึงดูดชาวเน็ตจำนวนมากเข้าชม แต่บางส่วนกล่าวว่า การโพสต์ของวาตาเบะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้รัฐบาลจีน วาตาเบะได้ตอบกลับว่า “เธอกำลังแบ่งปันทัศนคติและสิ่งที่ได้พบเห็นระหว่างการเดินทาง รวมทั้งชาวเน็ตบางส่วนไม่สามารถปฏิเสธเธอ ด้วยรายงานเกี่ยวกับภูมิภาคนี้ที่ไม่ถูกต้องซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้จากสื่อ”
รายงานบางฉบับในญี่ปุ่นเกี่ยวกับเรื่องซินเจียงอาจไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะรายงานที่อ้างว่า “รัฐบาลจีนกำลังกดขี่ชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์” วาตาเบะกล่าวว่า “ชาวญี่ปุ่นบางส่วนกังวลเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยของจีน แต่พวกเขาควรแสดงความคิดเห็นโดยอิงจากสิ่งที่พวกเขาเห็นด้วยตา ดังคำสุภาษิตที่กล่าวว่าสิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น”
ก่อนที่คณะทัวร์จะเดินทางถึงอุรุมชี เซวีย เจี้ยน กงสุลใหญ่จีนในโอซาก้าได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Global Times ซึ่งในระหว่างนั้น เขาได้แสดงความหวังว่า การมาเยือนครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ชาวญี่ปุ่นได้รู้จักภูมิภาคนี้มากขึ้น ในฐานะที่สื่อตะวันตกและญี่ปุ่นรายงานเกี่ยวกับซินเจียงอย่างขัดต่อความเป็นจริง และทำขึ้นเพื่อตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการกีดกันจีน
เซวีย เจี้ยน แสดงความหวังว่าจะมีการแลกเปลี่ยนระดับบุคคลระหว่างจีนและญี่ปุ่นมากขึ้น เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีต่อไป
