จีนและกลุ่มประเทศอาเซียนกระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง

(People's Daily Online)วันศุกร์ 07 กรกฎาคม 2023

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่า ในปี พ.ศ. 2565 มูลค่าการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของจีนไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนอยู่ที่ 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นร้อยละ 26 ของมูลค่าการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมดของกลุ่มประเทศอาเซียน

ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกรถยนต์ของจีนไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการในการบริโภครถยนต์พลังงานใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประเทศในอาเซียนต่างทยอยออกมาตรการจูงใจต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและจูงใจให้ผู้ประกอบการจีนเข้ามาลงทุน ด้วยข้อได้เปรียบในการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของจีนทำให้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้นเรื่อย ๆ จีนและอาเซียนยังคงกระชับความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับภูมิภาคพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 บีวายดี (BYD) บริษัทผู้ผลิตแบตเตอร์รี่และรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ได้ประกาศสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งในประเทศไทย โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี พ.ศ. 2567 ด้วยกำลังการผลิตปีละประมาณ 150,000 คัน และรถยนต์ที่ผลิตจะถูกวางจำหน่ายในตลาดอาเซียน อีกทั้ง ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซียกำลังดึงดูด BYD ให้สร้างโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศของตน

ในปี 2565 ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการนำเข้ารถยนต์จากจีนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยอัตราการนำเข้าสูงถึงร้อยละ 255

ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่ BYD ได้เริ่มสร้างฐานการผลิตในไทย บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ของจีนต่างทยอยเข้าลงทุนในไทย เช่น NETA และ SAIC Motor ได้ประกาศสร้างฐานการผลิตรถยนต์นั่ง และฐานการผลิตชิ้นส่วนหลักสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่

สวี่ ไห่ตง รองหัวหน้าวิศวกรของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีนกล่าวว่า “ในขณะที่การส่งออกรถยนต์ของจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาอย่างรวดเร็ว วิสาหกิจรถยนต์ของจีนจำนวนมากกำลังเข้าสู่ตลาดอาเซียนอย่างแข็งขันเพื่อลงทุนสร้างโรงงาน”

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เลขาฯ อีอีซี) กล่าวว่า “ในฐานะฐานผลิตรถยนต์รายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทยได้ออกมาตรการดึงดูดบริษัทจากจีนจำนวนมากเข้ามาลงทุนการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานใหม่”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทยคาดว่าจะสูงถึง 50,000 คันในปี 2566 โดยในจำนวนนี้ คาดว่าส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% แบรนด์จีนจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 78 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 85 ในปี 2566

เลขาฯ อีอีซีกล่าวเพิ่มว่า “บริษัทรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนยังผลักดันให้วิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เช่น วิสาหกิจในด้านการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ แท่นชาร์จ และด้านอื่น ๆ ไม่เพียงแต่สร้างงานให้กับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังนำเทคโนโลยีและการฝึกอบรมบุคคลที่มีความสามารถเข้ามาด้วย ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพแรงงานของประเทศไทยให้สูงขึ้น”