สมาชิกสภานิติบัญญัติเกาหลีใต้ระบุการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีของญี่ปุ่นเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อมหาสมุทรของโลก
นักเคลื่อนไหวถือป้ายร่วมการชุมนุมที่กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 (ซินหัว/หวัง อี้เหลียง)
นายอู๋ วอนชิก สมาชิกสภานิติบัญญัติ ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใต้กล่าวว่า หากมีการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่ได้รับอนุญาตในครั้งนี้ ในอนาคตเราต้องปล่อยให้มีการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่มหาสมุทรในทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุในลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่ ประชาคมระหว่างประเทศต้องตอบคำถามนี้
สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคประชาธิปไตยซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ว่าแผนปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีของญี่ปุ่นลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกจะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อมหาสมุทรของโลก
นายไว ซองกุน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปไตยและประธานคณะกรรมการป้องกันการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ของพรรคฯ แถลงกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า การปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ (ไดอิจิ) เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อมหาสมุทรของโลก ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า การปล่อยน้ำปนเปื้อนฯ ลงสู่มหาสมุทรเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต
ผู้ร่างกฎหมายกล่าวว่า การปล่อยก๊าซจะละเมิดมาตรา192,194 และ 207 ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ซึ่งกำหนดว่าควรใช้วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกัน ลด และควบคุมมลพิษทางทะเล
นายไว ซองกุนตั้งข้อสังเกตว่า ผลกระทบระยะยาวของการปล่อยมลพิษต่อระบบนิเวศทางทะเลในรายงานของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) เกี่ยวกับการปล่อยฯ ไม่สามารถทำให้ญี่ปุ่นมีเกราะป้องกันต่อการปล่อยน้ำปนเปื้อนลงสู่ทะเล เนื่องจากรายงานดังกล่าวล้มเหลวในการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบประมวลผลของเหลวขั้นสูงและการตรวจสอบระยะยาว
นายชู ชุลฮยอน สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคประชาธิปไตยระบุ “การปล่อยลงสู่มหาสมุทรไม่ใช่ทางออกเดียว” โดยอ้างถึงแผนกำจัด 5 แผนซึ่งเสนอในปี 2561 โดยคณะอนุกรรมการการจัดการน้ำที่ผ่านการบำบัดด้วย ระบบประมวลผลของเหลวขั้นสูงซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่น การค้าและอุตสาหกรรม
นักเคลื่อนไหวถือป้ายเข้าร่วมการชุมนุมที่ในกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 (ซินหัว/หวัง อี้เหลียง)
โดยแผนการที่เสนอนั้นรวมถึงการฉีดลงในธรณีภาค การฝังใต้ดิน การปล่อยไฮโดรเจน การปล่อยไอ ตลอดจนการปล่อยลงสู่มหาสมุทร
นายอู๋ วอนชิก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปไตยซึ่งอดอาหารมา 11 วันเพื่อประท้วงการปล่อยน้ำเสียฟูกูชิมะ กล่าวในการแถลงข่าวว่า 4 ทางเลือกแรก ซึ่งไม่ใช่การปล่อยน้ำเสีย จะไม่เป็นอันตรายต่อประเทศ อื่น ๆ แม้จะมีต้นทุนสูงขึ้นก็ตาม “สำหรับผมแล้ว มันยากที่จะเข้าใจว่าทำไมญี่ปุ่นถึงต้องการเลือกทางเลือกในการระบายน้ำปนเปื้อนฯ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศเพื่อนบ้าน” พร้อมกล่าวด้วยว่า ชาวเกาหลีใต้มีคำถามใหญ่อยู่ในใจว่าเหตุใดสหรัฐอเมริกา จึงไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกันต่อต้านการปลดประจำการ เนื่องจากเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ “หากครั้งนี้อนุญาตให้มีการปล่อยน้ำปนเปื้อน ในอนาคตทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ก็ต้องปล่อยให้ปล่อยลงมหาสมุทรอีกหรือไม่ ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องตอบคำถามนี้”