เรื่องราวของคูเหลียง: มิตรภาพจีน-อเมริกาที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

(People's Daily Online)วันพฤหัสบดี 13 กรกฎาคม 2023

ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1880 ชาวต่างชาติจำนวนมากได้ย้ายมาอยู่ที่ฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน หลายคนใช้เวลาพักผ่อนช่วงฤดูร้อนใน “กู่หลิง” (สถานที่มีชื่อเสียงในการพักร้อน ตั้งอยู่ชานเมืองฝูโจว) ในภาษาอังกฤษเรียกว่า คูเหลียง (Kuliang) ที่นั่นมีการก่อสร้างวิลล่า โรงพยาบาล สนามเทนนิสและสถานที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกทั้ง ได้สร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับคนในท้องถิ่น

เมื่อไม่นานมานี้ กู่หลิงได้ต้อนรับเพื่อนเก่าชาวอเมริกาจำนวนมากมาร่วมงานฟอรั่ม “สายสัมพันธ์กับคูเหลียง: มิตรภาพระหว่างประชาชนของจีน-สหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 2023 (Bond with Kuliang: 2023 China-U.S. People-to-People Friendship)” ในจำนวนนี้ บางคนเคยใช้เวลาในวัยเด็กที่กู่หลิงกับครอบครัว และบางคนได้สร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ผ่านครอบครัวของตนเอง กู่หลิงเปรียบเสมือนสายสัมพันธ์ที่เชื่อมพวกเขากับประเทศจีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีในงานฟอรั่มครั้งนี้ ข้อความในจดหมายระบุว่า “ผมดีใจมากที่ได้รับข่าวคราวจากสมาชิกกลุ่มเพื่อนคูเหลียง และได้ทราบเรื่องราวที่น่าประทับใจของความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณกับกู่หลิงจากจดหมายที่พวกคุณส่งมา”


ภาพถ่ายทางอากาศของกู่หลิง (ภาพโดยหลิน ชวงเวย)

ในปี พ.ศ. 2444 มิลตัน การ์ดเนอร์ พลเมืองสหรัฐฯ เดินทางมาที่เมืองฝูโจวพร้อมกับพ่อแม่ของเขา ตั้งแต่เขายังเป็นทารก และอาศัยอยู่จนกระทั่งครอบครัวของเขาย้ายกลับมายังสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2454 การ์ดเนอร์ปรารถนาที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านในวัยเด็กอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้จนกระทั่งเขาเสียชีวิต

ในปี 2535 ประธานาธิบดีสี ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจว ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่สะเทือนใจนี้จากบทความชื่อ “Ah! Kuliang” จากนั้นเขาได้เชิญเอลิซาเบธ การ์ดเนอร์ ภรรยาม่ายของมิลตัน การ์ดเนอร์ มาเยือนประเทศจีน เพื่อช่วยเติมเต็มความปรารถนาอันยาวนานของสามีเธอ ตั้งแต่นั้นมา เรื่องราวของคูเหลียงก็เป็นที่รู้จักของคนมากมาย

ลี การ์ดเนอร์ หลานชายของมิลตัน การ์ดเนอร์ กล่าวกับพีเพิลส์ เดลี่ว่า “ทั้งครอบครัวของเขารู้สึกขอบคุณ ประธานาธิบดีสี ที่ทำให้ความฝันของผู้สูงอายุชาวอเมริกันเป็นจริง เรื่องราวของคูเหลียงโดนใจคนจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา”

เขาแสดงอัลบั้มภาพที่ครอบครัวเก็บไว้ให้ต่อ พีเพิลส์ เดลี่ นับเป็นบันทึกความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างการ์ดเนอร์และกู่หลิง เขากล่าวว่า “อัลบั้มนี้เป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของครอบครัวเขา และจะมอบเป็นของขวัญให้แก่ชาวจีนในการมาที่กู่หลิงครั้งนี้”


ลี การ์ดเนอร์ ถืออัลบั้มภาพที่บันทึกสายสัมพันธ์ของครอบครัวเขาที่มีต่อกู่หลิง (พีเพิลส์ เดลี่/หวาง อิ๋นซิน)

เกล แฮร์ริส ซึ่งเคยอาศัยอยู่ที่กู่หลิงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก กล่าวเป็นภาษาถิ่นฮกเกี้ยนว่า “ฉันกลับบ้านแล้ว” ขณะที่เธอย่างเท้าเข้าสู่ดินแดนกู่หลิงอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมการประชุม

แฮร์รี่ รัสเซล คาลด์เวล คุณปู่ของเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในมณฑลฮกเกี้ยน และเป็นผู้รวบรวมพันธุ์นกทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นหนังสือที่ศึกษาประชากรนกในกู่หลิง หนึ่งในผลงานทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดที่บันทึกสายพันธุ์นกของจีน

เธอให้ข้อสังเกตว่า คุณปู่ชื่นชอบประเทศจีนและคนจีน ตอนนี้ หลาน ๆ ของคุณปู่ก็หลงรักประเทศนี้เช่นกัน รวมทั้งเธอก็รู้สึกรัก และคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ในจีนอย่างมาก

ครั้งนี้แฮร์ริสได้พบเพื่อนชาวจีนในวัยเด็กของเธอ “หลี่ อี้อิง” ทั้งสองคนจับมือทักทายและนั่งคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยภาษาถิ่นฮกเกี้ยนอย่างช้า ๆ

แฮร์ริสกล่าวว่า “เธอหวังว่าสายสัมพันธ์ในกู่หลิงจะสืบทอดต่อไปรุ่นต่อรุ่น เพื่อที่ว่าความรักและมิตรภาพจะคงอยู่ตราบนานเท่านาน”


เอลิน แมคอินนิสและลูกสาวใช้ถังไม้ดึงน้ำจากบ่อน้ำร้อยปีในกู่หลิง (ภาพโดยเวิง หรงเฟย)

เอลิน แมคอินนิส วัย 72 ปี ที่ปรึกษาอาวุโสของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมกู่หลิง ปีเตอร์ แมคอินนิส สามีของเธอ เกิดในเมืองฝูโจว และพ่อตาของเธอ (โดนัลด์ แมคอินนิส) เคยเป็นสมาชิกกลุ่ม Flying Tigers นักบินอาสาสมัครชาวอเมริกาที่เดินทางมาจีนและช่วยทหารจีนสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่น

ในหลายปีที่ผ่านมา เธอมีความตั้งใจที่จะเผยแผ่เรื่องราวของคูเหลียง และในปี 2556 เธอได้เปิดเว็บไซต์ภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า Kuliang บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และก่อตั้งกลุ่ม “เพื่อนคูเหลียง” ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันกลุ่มนี้มีสมาชิกมากกว่า 50 คน และได้เติบโตเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนมิตรภาพความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่ภาครัฐ

มิตรภาพที่ดีระหว่างประชาชนต่อประชาชนมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐต่อรัฐ เรื่องราวของกู่เหลียงเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนจีนและสหรัฐอเมริกา แม้ว่า ณ ตอนนี้ ทั้งสองประเทศกำลังเผชิญกับความสัมพันธ์ที่ท้าทายและยากลำบาก แต่พวกเขาก็ต้องการการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชนอย่างมาก

เอลิน แมคอินนิส กล่าวต่อพีเพิลส์ เดลี่ว่า บรรพบุรุษของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในคูเหลียงในอดีต เข้ากับคนในท้องถิ่นได้ดี รวมทั้ง เราได้เห็นคุณสมบัติที่ดีของมนุษยชาติจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นี้ นั่นคือ ความเข้าใจ ความเคารพ สันติภาพ มิตรภาพ และความรัก

เธอตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องราวของคูเหลียง ไม่เพียงแต่เป็นของจีนและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นของมนุษยชาติด้วย เธอหวังว่าเด็ก ๆ จากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่กู่หลิงในวันหนึ่ง และสานต่อเรื่องราวของคูเหลียง