จีนมีศักยภาพและมั่นใจที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตประจำปี
หลังจากตัวเลขหลักทางเศรษฐกิจได้เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (17 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ผู้วางแผนเศรษฐกิจระดับสูงของจีนได้กล่าวเมื่อวันอังคาร โดยยืนยันอีกครั้งว่า เศรษฐกิจจีนยังมีโมเมนตัมในการฟื้นตัวที่ดี อัดฉีดเครื่องกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กับหน่วยงานในตลาดท่ามกลางการ “ชะลอตัว” ของสื่อตะวันตก
หลี่ ฮุย เจ้าหน้าที่ประจำคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า “มีความเชื่อมั่น มีศักยภาพและเงื่อนไขที่จะก้าวถึงเป้าหมายการเติบโตของ GDP ปี 2566 ด้วยการใช้นโยบายทางเศรษฐกิจมหภาคที่มีอยู่และที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะช่วยส่งเสริมโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และสร้างตัวขับเคลื่อนการเติบโตใหม่” พร้อมให้ข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกของปี 2566 เริ่มได้ดี และยังคงฟื้นตัวต่อไปในไตรมาสที่ 2
พร้อมกล่าวว่า “จีนมีศักยภาพในการบริโภคมากที่สุดในโลก มีอุปทานที่แข็งแกร่งในการลงทุนในบริการสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐานและด้านอื่น ๆ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการส่งออกของจีนก็มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ” ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ NDRC ก็ตระหนักถึงความท้าทายจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจโลกที่ซับซ้อน อีกทั้งรากฐาน “ที่ไม่มั่นคง” ในการพัฒนาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกเติบโตที่ร้อยละ 5.5 ในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม การเติบโตรายไตรมาสต่อไตรมาสอยู่ที่ร้อยละ 0.8 เท่านั้น ลดลงจากการเติบโตในไตรมาสแรกร้อยละ 2.2 ในขณะที่กำลังประสบกับความท้าทายจากภายในและภายนอกหลายประการ รวมถึง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอ อัตราการว่างงานสูงในวัยหนุ่มสาวและปัญหาหนี้สิน
สื่อต่างประเทศเน้นย้ำการเติบโตอย่างอ่อนแอในไตรมาสที่สอง และชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายของจีนจะมีความกดดันเพิ่มทวีคูณ พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องระวัง ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกับการหลี่กเลี่ยงมาตรการกระตุ้นเชิงรุกที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านหนี้สิน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน “มีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดผลกระทบกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจทั้งโลก” แม้ว่าเธอจะไม่คาดหวังว่าจะเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ