เมืองอุรุมชีในซินเจียงตั้งเป้าทะยานเป็นศูนย์กลางการบินของ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”

เครื่องบินเจ็ตเดินทางถึงท่าอากาศยาน Tashkurgan Khunjerab ในเขตปกครองตนเองซิน
เจียงอุยกูร์ สนามบินซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2565 นับเป็นสนามบินบนที่ราบสูงแห่ง
แรกในซินเจียง (ซินหัว)

การประชุมฟอรัมการก่อสร้างศูนย์กลางการบินนานาชาติอุรุมชีเพิ่งจบไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ในงานมีผู้แทนจากบริษัทสำคัญทางการบินระดับโลก หน่วยงานบริหารการบินพลเรือนภายในประเทศและต่างประเทศ และสนามบินต่าง ๆ มารวมตัวกันที่เมือง อุรุมชี เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินพลเรือนตามแนวเส้นทางสายไหม

ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่เสนอโดยจีนเมื่อ 10 ปีก่อนได้สร้างโอกาสให้ซินเจียงอย่างเป็นประวัติการณ์ ด้วยตำแหน่งที่เป็นหัวใจของเส้นทางสายไหมโบราณ

ประตูเชื่อมโลกตะวันออกสู่ตะวันตก

อัลวิน หลิว รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทโบอิ้งในประเทศจีนกล่าวว่า “อุรุมชีมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ” พร้อมเสริมว่า BRI ทำให้เห็นความเชื่อมโยงและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน อีกทั้ง ช่วยเปิดประตูสู่ความร่วมมือ

หลิวให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเรามุ่งมั่นในการสนับสนุนเส้นทางบินใหม่ที่นี่ และสนับสนุนให้อุรุมชีเป็นประตูสู่ความเจริญรุ่งเรืองที่โลกตะวันออกพบโลกตะวันตก”

จอร์จ ซวี ประธานกรรมการบริหาร Airbus China กล่าวว่า “ข้อได้เปรียบของตำแหน่งที่ตั้งเมืองอุรุมชีช่วยให้สายการบินหลายสายลดต้นทุนค่าใช้จ่าย มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและมีความสามารถในการแข่งขันได้มากขึ้น”

ข้อมูลจากบริษัท ซินเจียง แอร์พอร์ต กรุ๊ป จำกัด เผยว่า มีเที่ยวบินผู้โดยสารจากต่างประเทศ 23 แห่งบินเข้าเมืองอุรุมชี เส้นทางการขนส่งทางอากาศ 5 เส้นทาง ช่วยเชื่อมอุรุมชีกับเมืองต่าง ๆ ในเอเชียกลางและเอเชียตะวันตก

ความร่วมมือที่แนบแน่น

ในงานประชุมฟอรัมฯ มีการเปิดตัว “พันธมิตรความร่วมมือทางการบินพลเรือนเส้นทางสายไหม” อันประกอบด้วยสมาชิกจากหลายภาคส่วน ได้แก่ สนามบิน สนามบินพลเรือน ผู้ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนทางการบิน วิสาหกิจการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม สถาบันทางการเงิน และสมาคมการค้าต่าง ๆ จากจีนและต่างประเทศในแนวเส้นทางสายไหม

หวาง ฉางชุน ประธานสมาคมการขนส่งทางอากาศแห่งประเทศจีน (China Air Transport Association) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งพันธมิตรฯ ว่า “เพื่อให้ผู้มีส่วนร่วมในแนวทางเส้นทางสายไหมสร้างความร่วมมือที่แนบแน่นในด้านการบินพลเรือนระหว่างประเทศ รวมทั้ง ใช้ธุรกิจการบินเป็นตัวเชื่อมในการส่งเสริมความร่วมมือแบบพหุภาคี

ในระหว่างการประชุม ผู้บริหารจากบริษัทสายการบินในประเทศและต่างประเทศ เช่น China Southern Airlines และ China Eastern Airlines ให้คำมั่นสัญญาที่จะสนับสนุนการพัฒนาของอุรุมชีในฐานะศูนย์กลางทางการบินของเส้นทางสายไหม

บัดรัล เออร์เดนบาตอร์ ผู้จัดการทั่วไปของสายการบินมองโกเลีย (MIAT Mongolian) สำนักงานสาขาปักกิ่งกล่าวว่า “เราสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์กลางทางการบินระหว่างประเทศในอุรุมชีอย่างเต็มที่ และยินดีที่จะสร้างความสัมพันธ์ผ่านการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสนามบินอุรุมชี”