ผู้เชี่ยวชาญระบุการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนช่วยให้สายสัมพันธ์จีน-อาเซียนมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญกัมพูชาระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ว่า การเยือนสามประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้สร้างแรงผลักดันใหม่ ๆ ต่อความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและอาเซียน
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกรรมการกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเสร็จสิ้นการเยือนสามประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซียและกัมพูชา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม
ในการเยือนครั้งนี้ ได้พบกับ นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีปัจจุบัน และพลเอกฮุน มาเนต ว่าที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
นายเกิ่น เพีย (Kin Phea) ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า การเยือนของนายหวัง อี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของจีนในการสร้างมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับอาเซียน
เขากล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าสำหรับกัมพูชา การเยือนของนายหวัง อี้ ได้กำหนดแนวทางความร่วมมือทวิภาคีในการสร้างชุมชนกัมพูชา-จีนที่มีอนาคตร่วมกันยุคใหม่อย่างมีคุณภาพสูง ในระดับสูง และมีมาตรฐานสูง
การเยือนของนายหวัง อี้ มีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีน-กัมพูชา ส่งเสริมความเข้าใจ ความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์และการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การเยือนครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าจีนสนับสนุนอาเซียนอย่างเต็มที่ รวมถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของจีนที่จะร่วมมือกับอาเซียนเพื่อส่งเสริมลัทธิพหุภาคี ความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย การเติบโตอย่างเป็นธรรมทั่วถึงและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนที่มั่นคงมีความสำคัญต่อการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคทั้งหมด
นายเซียน ซัม (Seun Sam) นักวิเคราะห์นโยบายจากสำนักงานราชบัณฑิตยสภากัมพูชากล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า การเยือนกัมพูชาของนายหวัง อี้มีความสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศเป็นข้อพิสูจน์มิตรภาพที่ยั่งยืนและ แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของจีนในการกระชับสายสัมพันธ์กับอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภายในกรอบข้อริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง และความทุ่มเทของจีนในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเพื่อนบ้าน รวมทั้ง ส่งเสริมวิสัยทัศน์ร่วมกันเกี่ยวกับสันติภาพ การพัฒนา และความร่วมมือ
