รมว.ต่างประเทศจีน-สหรัฐฯ เจรจาฟื้นฟูความสัมพันธ์
ในวันที่ 26-27 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้จัดการเจรจา 2 รอบกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อการพบปะระหว่างประมุขแห่งรัฐของทั้งสองประเทศในซานฟรานซิสโก
นายหวัง อี้ กล่าวว่า สถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงและความปั่นป่วน และความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ก็อยู่ที่ทางแยกที่สำคัญเช่นกัน จีนและสหรัฐอเมริกาในฐานะสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกและสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ไม่เพียงแต่เผชิญกับภารกิจด้านการพัฒนาประเทศของตนเท่านั้น แต่ยังเผชิญกับความท้าทายร่วมกันด้วย จีนเชื่อเสมอมาว่า ผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศมีมากกว่าความเห็นต่างและข้อพิพาท ความสำเร็จของทั้งจีนและสหรัฐฯเป็นโอกาสมากกว่าความท้าทายสำหรับอีกฝ่ายหนึ่ง แนวทางที่ประเทศขนาดใหญ่ จะอยู่ร่วมกันได้ควรอยู่ที่การเจรจาและความร่วมมือ ไม่ใช่การเล่นเกมที่ต้องมีฝ่ายแพ้ฝ่ายชนะ
จีนมีข้อคิดเห็นว่า จีนและสหรัฐฯ ควรนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับมาสู่แนวทางการพัฒนาที่ดีและมั่นคงโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและทั่วโลก
นายหวัง อี้ ชี้ว่า การพลิกผันในเส้นทางความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ในปีนี้มีทั้งประสบการณ์ที่น่าสรุปและบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งสองฝ่ายควรยึดมั่นใน “สิ่งที่ต้องทำ 5 ประการ” ดังต่อไปนี้ คือ ต้องปฏิบัติตามฉันทามติของประมุขแห่งรัฐทั้งสองประเทศ รักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มั่นคง รักษาช่องทางการสื่อสาร จัดการกับความเห็นต่าง ข้อพิพาท และความขัดแย้งอย่างเหมาะสม และส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายควรมีมุมมองที่เป็นกลางเกี่ยวกับความตั้งใจเชิงยุทธศาสตร์ของกันและกัน ปฏิบัติต่อปัจจัยการแข่งขันในการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองประเทศอย่างถูกต้อง และกำหนดแนวคิดเรื่องความมั่นคงของชาติอย่างชัดเจน เพื่อรักษาเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ให้ดีขึ้นต่อไป
ด้านนายบลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ และจีนได้รักษาการติดต่อ และการมีปฏิสัมพันธ์ โดยดำเนินการสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวก สหรัฐฯ ต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยั่งยืนกับจีน ยินดียกระดับการสื่อสารกับจีน หารือการร่วมมือที่จำเป็น ตลอดจนเตรียมความพร้อมสำหรับการแลกเปลี่ยนระดับสูงในระยะต่อไป
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายจะจัดการหารือในกิจการด้านต่างๆ ตามลำดับ เช่น การหารือเกี่ยวกับกิจการทางทะเล การควบคุมอาวุธและการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ และนโยบายทางการทูต
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังจะจัดการประชุมเพื่อประสานนโยบายเกี่ยวกับคนพิการ และลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของคนพิการ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างทั้งสองประเทศมากขึ้น
รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
นายหวัง อี้ กล่าวว่า สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือ ป้องกันไม่ให้เกิดภัยทางด้านมนุษยธรรมในวงกว้าง การแก้ไขความขัดแย้งเบื้องต้นระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ คือ ปฏิบัติตามแผนสองรัฐ ประเทศใหญ่ควรมีความสุขุมรอบคอบ เป็นกลาง และส่งเสริมความเป็นธรรม ในขณะที่สหประชาชาติควรแสดงบทบาทที่พึงมี จีนยินดีร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อกระตุ้นกลไกในการส่งเสริมสันติภาพ และสร้างฉันทามติระหว่างประเทศในวงกว้างมากขึ้นตามแผนสองรัฐ และหารือเกี่ยวกับการจัดหาหลักประกันระหว่างประเทศที่มีประสิทธิผลมากขึ้น
นายบลิงเคน กล่าวว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลางนั้นสอดคล้องกับประโยชน์ของทุกฝ่าย สหรัฐฯ มีความเห็นเช่นกันว่า จำเป็นต้องกลับสู่การดำเนินการตามแผนสองรัฐ
ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน ปัญหานิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี และประเด็นอื่นๆ