ประเทศตาม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จะบรรจุความสำเร็จที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน
ในรอบทวรรษที่ผ่านมา มีประเทศต่าง ๆ มากกว่า 150 แห่งและ 30 องค์การระหว่างประเทศได้ร่วมในความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และได้มีการลงนามในเอกสารความร่วมมือมากกว่า 230 ฉบับ ผู้แทนจาก 151 ประเทศและ 41 องค์การระหว่างประเทศในการประชุม BRF ครั้งที่ 3 ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงจุดเด่นของความร่วมมือแบบวิน-วินและการพัฒนาร่วมกัน
พนักงานในโรงงานผลิตตู้เย็นกลุ่มบริษัทไฮเซน (Hisense) ในเมืองวัลเจโว ประเทศเซอร์เบีย
กำลังประกอบอุปกรณ์ (พีเพิลส์ เดลี่/หลิว จงฮว๋า)
“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ไม่เพียงแต่นำมาซึ่งความสำเร็จมากมายที่จับต้องได้ แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมการสร้างความเข้าใจในระดับลึกในเรื่องความร่วมมือแบบวิน-วินว่าเป็นหนทางสู่ความสำเร็จที่แน่นอน ความเข้าใจดังกล่าวกำลังถูกหว่านเมล็ดพืชแห่งความร่วมมือไปทั่วโลก และทำให้ความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Gabriel Boric ประธานาธิบดีชิลี กล่าวว่า “BRI นำเอาภูมิปัญญาจากวัฒนธรรมดั้งเดิมและประวัติศาสตร์ของจีนมากกว่า 5,000 ปี ซึ่งอยู่บนรากฐานของความเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน BRI กลายเป็นเวทีสำคัญในความร่วมมือที่เป็นประโยชนระหว่างกันและโอกาสที่สำคัญสำหรับประเทศต่าง ๆ รอบโลกเพื่อให้บรรลุการพัฒนาร่วมกัน”
ความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ช่วยก้าวข้ามความแตกต่างระหว่างอารยธรรม วัฒนธรรม ระบบสังคม และขั้นตอนของการพัฒนา ได้เปิดเส้นทางใหม่สำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศและสร้างกรอบใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ อันที่จริง BRI เป็นตัวแทนของการแสวงหาการพัฒนาร่วมกันของมนุษยชาติสำหรับทุกคน
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ UN กล่าวว่า “ด้วยการอุทิศตนต่อความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง พวกเราสามารถเปลี่ยนความฉุกเฉินของโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นโอกาสของโครงสร้างพื้นฐานได้ เพิ่มพลังในการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และส่งมอบความหวังและความก้าวหน้าให้กับผู้คนหลายพันล้านคนและโลกที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน”
BRF ครั้งที่ 3 ได้รวบรวมฉันทามติเกี่ยวกับความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อขยายโอกาส ซึ่งถือเป็นหลักชัยสำคัญในความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
นักเรียนชาวเคนยากำลังนั่งรถไฟ (พีเพิลส์ เดลี่/จาง จือเหวิน)