รมต.ตปท จีนสรุปผลงานการเดินทางไปสหรัฐฯ ของปธน.สี จิ้นผิง
ตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 17 พฤศจิกายน ปี 2023 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้เดินทางไปยังนครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ตามคำเชิญของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการพบกันระหว่างประธานาธิบดีจีน-สหรัฐฯ และเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปค (APEC) ครั้งที่ 30 โดยนายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้บรรยายสรุปการเดินทางครั้งนี้ให้กับผู้สื่อข่าวที่ร่วมการเดินทาง
นายหวัง อี้ กล่าวว่าในปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงร้อยปี และมนุษยชาติกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ จะดำเนินไปอย่างไรนั้นเป็นข้อที่ประชาชนทั้งสองประเทศให้ความสนใจกันอย่างมากและประชาคมโลกก็จับตามองในระดับสูง ปีนี้เป็นการพบกันครั้งที่ 30 ของผู้นำเอเปค ทุกฝ่ายต่างตระหนักอย่างลึกซึ้งต่อทิศทางแห่งความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิกในอีก 30 ปีข้างหน้า ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกและจัดการเดินทางในนครซานฟรานซิสโก เพื่อพบกับประธานาธิบดีไบเดน หารือแนวทางที่ถูกต้องสำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ แลกเปลี่ยนกับแวดวงต่างๆในสหรัฐฯ เพื่อรวบรวมฉันทามติเกี่ยวกับความร่วมมือฉันมิตร และเข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำเอเปค ชี้ทิศทางความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สื่อมวลชนต่างเห็นพ้องกันว่า การเยือนครั้งนี้เป็นที่จับตามองของโลก ได้ประสบผลสำเร็จ และมีความหมายอันลึกซึ้งยาวไกล เพิ่มเสถียรภาพให้กับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อัดฉีดพลังงานเชิงบวกเข้าสู่โครงสร้างระหว่างประเทศและภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะผู้นำของประเทศที่ใหญ่ของโลก
นายหวัง อี้ กล่าวด้วยว่าการเยือนครั้งนี้เป็นการปฏิบัติตามแนวคิดการต่างประเทศของปธน.สี จิ้นผิงอีกครั้ง และ เป็น“ปฏิบัติการครั้งใหญ่” ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ ตั้งแต่จัดการพบปะระหว่างผู้นำสูงสุดของจีนและรัสเซียในกรุงมอสโกเมื่อต้นปี จนถึงการพบกันระหว่างผู้สูงสุดจีน-สหรัฐฯ ในนครซานฟรานซิสโกในช่วงปลายปีนี้ จีนได้ส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือระหว่างประเทศใหญ่ ส่งเสริมการริเริ่มกรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ที่มั่นคงและพัฒนาอย่างสมดุล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของจีนในฐานะประเทศมหาอำนาจ