บทวิเคราะห์: จีนเรียกร้องอังกฤษรับฟังข้อเรียกร้องจากหลายประเทศ คืนโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกอังกฤษปล้นชิงไป
วันที่ 26 พฤศจิกายน นายคีรีอาคอส มิตโซทาคิส นายกรัฐมนตรีกรีซเยือนประเทศอังกฤษอย่างเป็นทางการ เขาให้สัมภาษณ์พิเศษกับ BBC ว่า กรีซหวังให้บริติชมิวเซียมคืนประติมากรรมประดับวิหารพาร์เธนอน โดยระบุว่า “ความเป็นเจ้าของโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมเหล่านี้ ไม่มีอะไรที่จะโต้แย้ง มันเป็นของกรีซและถูกขโมยไป”
ประเทศกรีซไม่ใช่ประเทศเดียวที่ได้เผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าว ประเทศอังกฤษเคยเป็นนักล่าอาณานิคมที่มีจำนวนอาณานิคมมากที่สุด บริติชมิวเซียมอันที่จริงแล้วคือหอนิทรรศการประวัติศาสตร์อาณานิคมของอังกฤษ เช่น เครื่องสัมฤทธิ์เบนินของไนจีเรีย ศิลาโรเซตตาของอียิปต์ เป็นต้น คอลเลคชั่นส่วนใหญ่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นพยานการปล้นชิงในยุคล่าอาณานิคมของอังกฤษ ระหว่างนี้ก็ยังมีโบราณวัตถุจำนวน 23,000 ชิ้นของประเทศจีน
ตามสถิติอย่างไม่เป็นทางการจาก UNESCO จีนได้สูญเสียโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมในต่างแดนอย่างน้อย 1,640,000 ชิ้น ซึ่งบริติชมิวเซียมเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีคอลเลคชั่นโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมจีนที่สูญหายไปในต่างแดนจำนวนมากที่สุด โบราณวัตถุของจีนที่เป็นคอลเลคชั่นในบริติช มิวเซียมได้ครอบคลุมงานศิลปะเกือบทุกประเภทและได้ครอบคลุมประวัติศาสตร์เกือบทั้งหมดของจีน เช่นเครื่องสัมฤทธิ์สมัยราชวงค์ซางและโจว เครื่องเคลือบลายครามสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง และผลิตภัณฑ์ทำด้วยทองและหยกของสมัยราชวงศ์หมิงและชิง เป็นต้น
โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งของที่สืบทอดและเปรียบเสมือนสิ่งสะท้อนวัฒนธรรมของประเทศชาติ สะท้อนถึงอารมณ์ทางประวัติศาสตร์และความทรงจำในด้านวัฒนธรรม หลายปีมานี้หลายๆ ประเทศไม่เคยหยุดการเรียกร้องให้บริติชมิวเซียมและรัฐบาลอังกฤษคืนโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกอังกฤษปล้นชิงไป เพื่อที่จะปกป้องวัฒนธรรมของตัวเอง ขจัดการล่าอาณานิคมให้หมดสิ้น นับเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของขบวนการต่อต้านการล่าอาณานิคมระหว่างประเทศอีกด้วย
ยุคล่าอาณานิคมหมดไปแล้วในโลก ยุคนี้อังกฤษควรรับฟังข้อเรียกร้องจากหลายประเทศ คืนโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกอังกฤษปล้นชิงไปโดยเร็วที่สุด คอลเลคชั่นแสนประณีตของประเทศต่างๆ ที่ถูกเก็บไว้ในบริติชมิวเซียม ถึงเวลาที่ควรกลับสู่มาตุภูมิแล้ว ประวัติศาสตร์อาณานิคมของอังกฤษ ก็ควรกลายเป็นประวัติศาสตร์เท่านั้น