โรงเรียนภาคค่ำ แหล่งใหม่ของชีวิตกลางคืนชาวจีน
หวง ซาซา (ซ้าย) ครูสอนศิลปะการจัดดอกไม้ในชั้นเรียนที่โรงเรียนภาคค่ำในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
ทางตอนกลางของจีน เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2567 (ซินหัว/ตู จื่อซวน)
ช่วงนี้ โรงเรียนภาคค่ำกลับมาได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน จะเห็นได้จากการมีชั้นเรียนต่าง ๆ กว่า 500 ห้อง ด้วยคนวัยหนุ่มสาวกว่า 4,000 คนที่ลงเรียนกันเต็มอัตราในห้องเรียนของเมืองต่าง ๆ ทั่วมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน
ในขณะเดียวกัน เมืองอู่ฮั่น ตอนกลางของประเทศ หลังจากเปิดโรงเรียนภาคค่ำเพื่อคนวัยหนุ่มสาว ทั้ง 9 คอร์สเรียนก็ถูกจองเต็ม
ในนครเซี่ยงไฮ้ โรงเรียนศิลปะภาคกลางคืนได้เปิด 382 คอร์สเรียน โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวน 650,000 รายแสดงความสนใจ
“การทำงานตอนกลางวันและเรียนตอนกลางคืน” กำลังกลายเป็นเครื่องหมายแสดงถึงชีวิตกลางคืนของจีน
โรงเรียนภาคค่ำไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเริ่มมีมาตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างการทำงานและการศึกษา โดยทำหน้าที่เป็นโรงเรียนภาคกลางคืนให้กับคนทำงานที่ต้องการเสริมทักษะ
ตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน โรงเรียนภาคค่ำได้บ่มเพาะความรู้และความก้าวหน้าทางอาชีพให้แก่คนรุ่นเยาว์รุ่นต่อรุ่น และยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง
ครูกำลังสอนการชงกาแฟในโรงเรียนภาคค่ำในเมืองเหอเฟย มณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 16
ม.ค. 2567 (ซินหัว/จ้าว จินเจิ้ง)
หลังจากการพัฒนานับศตวรรษ แนวโน้มของโรงเรียนภาคค่ำในปัจจุบันไม่ได้จำกัดแค่วิชาแบบดั้งเดิมทั่วไป ชีวิตนอกเหนือการทำงาน 8 ชั่วโมงมีความคึกคักมากขึ้น
ปัจจุบัน โรงเรียนภาคค่ำมีคอร์สเรียนที่แตกต่างกันมากมาย ตอบสนองความสนใจส่วนบุคคลและเติมเต็มไลฟ์สไตล์ เช่น การร้องและเล่นดนตรี, การเขียนพู่กันจีน, การวาดสีน้ำมัน, ศิลปะกาแฟ, การอบเค้ก, การเย็บปักถักร้อย, การผลิต vlog, มวยไทย และศิลปะการต่อสู้
โรงเรียนภาคค่ำได้กลายเป็นตลาดที่เจริญรุ่งเรืองและช่วยขยายขอบเขตของการจ้างงาน