ครูสอนพิเศษสองภาษาชาวต่างชาติส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่พิพิธภัณฑ์เหลียงจู่ เมืองหางโจว

นางสาวเอ็มมา เฉิน ครูสอนพิเศษสองภาษาที่พิพิธภัณฑ์เหลียงจู่ ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง
ภาคตะวันออกของจีน (พีเพิลส์เดลี่ออนไลน์)

นางสาวเอ็มม่า เฉิน ครูสอนพิเศษสองภาษาที่พิพิธภัณฑ์เหลียงจู่ ในเมืองหางโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง ภาคตะวันออกของจีน เธอส่งเสริมวัฒนธรรมโบราณเหลียงจู่แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติด้วยภาษาจีนและภาษาอังกฤษ

หลังสำเร็จการศึกษาสาขาการศึกษาภาษาจีนและตะวันออกจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา นางสาวเฉินก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองหางโจว สาธาณรัฐประชาชนจีนอยู่มาเกือบทศวรรษ ความหลงใหลในพิพิธภัณฑ์ของเธอทำให้เธอท่องไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศจีน รวมถึงพิพิธภัณฑ์ยินซี พิพิธภัณฑ์คั่วหูเฉียว และพิพิธภัณฑ์ซานซิงตุย

การไปท่องพิพิธภัณฑ์เหลียงจู่บ่อยครั้งทำให้คุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์จนได้รับการทาบทามให้มาเป็นอาสาสมัคร “ครั้งหนึ่งเมื่อฉันมาที่นี่ มีคนถามฉันว่าฉันอยากเป็นอาสาสมัครไหม? ฉันตื่นเต้นมากเพราะฉันอยากทำแบบนั้นมาโดยตลอด” เธออธิบาย พร้อมเสริมว่าประสบการณ์นี้สะท้อนถึงคำว่า “หยวนเฟิน” ในภาษาจีนที่แปลว่าโชคชะตา

นางสาวเอ็มมา เฉิน ครูสอนพิเศษสองภาษาที่พิพิธภัณฑ์เหลียงจู่ ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง
ภาคตะวันออกของจีน (พีเพิลส์เดลี่ออนไลน์)

บทบาทของครูสอนพิเศษที่พูดได้สองภาษานั้นท้าทายและต้องเรียนรู้มาก โดยต้องทุ่มเทศึกษาและค้นคว้าทุกวันเพื่อนำเสนอเรื่องราวที่หลากหลายของสิ่งของที่จัดแสดงแต่ละอย่างให้ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้เธอจึงศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ทุกวัน

นางสาวเฉินปรับแต่งการนำเสนอให้เหมาะกับภูมิหลังทางวัฒนธรรมของผู้ฟัง ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ “มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างสิ่งที่ฉันทำในภาษาจีนและสิ่งที่ฉันทำในภาษาอังกฤษ” พร้อมเสริมว่าเป็นเพราะภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่ต่างกัน “เพราะผู้ชมต่างประเทศของเราไม่ได้รู้จักสิ่งเหล่านี้ดีนัก เราต้องพูดมากกว่านี้”

เธอสนใจวัฒนธรรมเหลียงจู่ เนื่องจากซากปรักหักพังทางโบราณคดีของเมืองเหลียงจู่ เป็นหลักฐานยืนยันการดำรงอยู่ของอารยธรรมจีนอย่างน้อย 5,000 ปี “ตอนที่ฉันเรียนในมหาวิทยาลัย ฉันมีศาสตราจารย์คนหนึ่งที่พูดประมาณว่า ‘คนจีนมักพูดว่าตนมีอารยธรรมมา 5,000 ปี แต่มันไม่จริง มันเป็นเพียงเรื่องราว’  ตอนนั้นฉันกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับประเทศจีนและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่หลังจากที่ฉันมาที่เมืองเหลียงจู่ ฉันสามารถให้หลักฐานแก่พวกเขาได้ หลังจากได้ทัวร์ครั้งนี้ คุณจะเข้าใจว่าจีนเป็นอย่างไรเมื่อ 5,000 ปีก่อน และประวัติศาสตร์จีนเมื่อ 5,000 ปีก่อนเป็นอย่างไร?” เฉินสนุกกับการส่งเสริมวัฒนธรรมเหลียงจู่ เธอระบุ “นอกจากนี้ เราจะทำให้ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีเมื่อมาเยือนที่นี่”

เมื่อมองไปข้างหน้าและพูดถึงแผนในอนาคตของเธอ เธอกล่าวว่า “ฉันอยากจะทำให้ป็นมืออาชีพมากขึ้น ในฐานะที่ฉันเป็นคนต่างชาติ ฉันอาจจะรู้มากขึ้นอีกหน่อยว่าผู้ชมในต่างประเทศต้องการอะไร ดังนั้น ฉันอยากจะลองศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้ให้มากขึ้นเพื่ออธิบายแนวคิดให้ผู้ชมชาวต่างชาติเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น”