เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุความสัมพันธ์จีน-มาเลเซียที่แน่นแฟ้นสร้างจากค่านิยมร่วมกัน
เจ้าหน้าที่มาเลเซียกล่าวเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ว่าความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างจีนและมาเลเซียขึ้นอยู่กับค่านิยมร่วมกันของทั้งสองประเทศ ซึ่งรวมถึงความปรารถนาที่จะแบ่งปันความเจริญรุ่งเรืองและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
เมื่อกล่าวถึงความสำคัญของจีนในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ และตระหนักถึงสิ่งนี้ผ่านโครงการริเริ่มด้านพลังงานสีเขียว นายอักมาล นาสรูลา โมห์ นาเซียร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการปฏิรูปน้ำมาเลเซียกล่าวในฟอรัมรำลึกมาเลเซีย-จีนว่ามาเลเซียพยายามดำเนินโครงการริเริ่มที่คล้ายกันผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งเอเชีย
เขากล่าวว่า มาเลเซียร่วมมือกับจีนเป็นผู้นำในการส่งเสริมพลังงานทดแทน ทั้งสองประเทศกำลังลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยีสะอาด รวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และไฟฟ้าพลังน้ำ ความพยายามร่วมกันของเรามีเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านโลกสู่พลังงานที่ยั่งยืน
ฟอรัมนี้จัดโดยไชน่า เดลี่, สถาบันยุทธศาสตร์เคเอสไอสำหรับเอเชียแปซิฟิก (KSI Strategic Institute for Asia Pacific) และสภาธุรกิจมาเลเซีย-จีน เป็นการรวมตัวกันของผู้นำรัฐบาล นักธุรกิจ นักวิชาการ และนักคิดเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและหารือถึงวิธีการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตันศรี ไมเคิล โหย่ว ประธานสถาบันยุทธศาสตร์เคเอสไอสำหรับเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ปีนี้ครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและมาเลเซีย เป็นโอกาสที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความก้าวหน้าของสิ่งที่ได้ทำไป แต่ยังต้องคำนึงถึงสิ่งที่สามารถจะทำได้ในอนาคต “ความสัมพันธ์ของเราเติบโตจากความมั่นคงสู่ความแน่นแฟ้น ตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ครอบคลุมความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางธุรกิจ การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม” ทั้งยังกล่าวด้วยว่า
“ในอนาคตข้างหน้า เราเชื่อว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีจะยังคงแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และครอบคลุมสาขาใหม่ๆ เช่น การเติบโตสีเขียวและเทคโนโลยีดิจิทัล”
นายโอวหยาง อวี่จิ้ง เอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซียกล่าวว่า ความร่วมมือที่ครอบคลุมและปฏิบัติได้จริงเป็นแรงผลักดันสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์จีน-มาเลเซียในทุกสาขา “ขณะนี้จีนกำลังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนากำลังผลิตที่มีคุณภาพใหม่ซึ่งจะทำให้มาเลเซียได้รับโอกาสความร่วมมือมากขึ้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ บิ๊กดาต้า เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาสีเขียว ยานพาหนะพลังงานใหม่ และอุตสาหกรรมเกิดใหม่อื่น ๆ ผลจากความร่วมมือข้างต้นย่อมก่อเกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองประเทศอย่างเต็มที่”