แมคโดนัลด์ขยายกิจการในตลาดจีน เตรียมเปิดสาขาอีก 10,000 แห่งในจีนภายในปี 2571
บริษัทแมคโดนัลด์ในประเทศจีนร่วมกับซัพพลายเออร์รายใหญ่ 4 ราย ได้ประกาศเปิดตัวเขตอุตสาหกรรมในเมืองเสี่ยวกัน มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน เมื่อวันที่ 3 ก.ค. โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของตลาดจีนในแง่ของห่วงโซ่อุปทานสำหรับธุรกิจอาหาร
ตามข้อมูลที่ให้แก่โกลบอล ไทมส์ เขตอุตสาหกรรมอาหารอัจฉริยะหูเป่ยเป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง Bimbo QSR, XH Supply Chain, Tyson Foods Inc และ Zidan มูลค่าการลงทุนรวม 1.5 พันล้านหยวน (206 ล้านดอลลาร์)
เขตอุตสาหกรรมแห่งนี้คาดว่าจะผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ได้ 34,000 ตัน ซาลาเปา 270 ล้านชิ้น ขนมอบ 30 ล้านชิ้น และผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ 2 พันล้านชิ้นต่อปี นอกจากนี้ ยังมีคลังสินค้าอัตโนมัติที่ได้มาตรฐานสูงขนาด 25,000 ตารางเมตรสำหรับสินค้าแช่แข็ง สินค้าแช่เย็น และสินค้าแห้ง ซึ่งช่วยลดเวลาการขนส่งลงร้อยละ 90 ตั้งแต่การผลิตจนถึงปลายทาง
บริษัทฯ กล่าวว่า ด้วยผลประโยชน์ทางภูมิศาสตร์ท้องถิ่น เขตอุตสาหกรรมจะกลายเป็นศูนย์กลางในการส่งสินค้าให้แก่แมคโดนัลด์ในตอนกลางและทางตะวันตกของประเทศจีน ช่วยเพิ่มคุณภาพและเสถียรภาพให้แก่สาขาของแมคโดนัลด์ในบริเวณดังกล่าว
ฟิลลิส เฉิง ผู้บริหารบริษัทแมคโดนัลด์ประเทศจีนกล่าวว่า “แมคโดนัลด์ได้ฝังรากลึกในประเทศจีนมากว่า 30 ปีและเขตอุตสาหกรรมก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาระยะยาวในจีน”
แมคโดนัลด์ ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารของสหรัฐฯ ยังคงขยายแผนที่ทางธุรกิจในจีนต่อไป ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 มีสาขาทั่วจีนมากกว่า 6,000 แห่งและพนักงานมากกว่า 200,000 คน จีนกลายเป็นประเทศที่ใหญ่สุดอันดับสองและมีตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดสำหรับบริษัทฯ โดยเมื่อปี 2566 บริษัท แมคโดนัลด์ ประเทศจีนเผยว่าจะมีการดำเนินการร้านอาหารถึง 10,000 แห่งภายในปี 2571
เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว แมคโดนัลด์และซัพพลายเออร์ได้ลงทุนมากกว่า 12 พันล้านหยวน (6 หมื่นล้านบาท) ระหว่างปี 2561 ถึง 2566 เพื่อพัฒนากำลังการผลิตใหม่และเพิ่มความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า เขตอุตสาหกรรมแห่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบริษัทต่างชาติในการดำเนินธุรกิจในจีน ในขณะที่จีนใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรมในการปฏิรูปและเปิดประเทศเพิ่มเติม
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่า การลงทุนจากต่างประเทศโดยตรงของจีนในช่วงมกราคมถึงพฤษภาคมมีมูลค่าถึง 412.51 พันล้านหยวน โดยมีจำนวนบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ 21,764 แห่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 17.4
จากการสำรวจล่าสุดโดยหอการค้าอเมริกันในจีน ในปี 2566 บริษัทสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นในจีน และครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมการสำรวจเสนอให้จีนเป็นตัวเลือกแรกหรืออยู่ในจุดหมายปลายทางการลงทุนชั้นนำสามอันดับแรกของโลก
โอลาฟ คอร์ซินอฟสกี้ (Olaf Korzinovski) รองประธานบริหารบริษัทโฟล์คสวาเกน ประเทศจีน ซึ่งรับผิดชอบด้านการผลิตและส่วนประกอบ ยังได้แบ่งปันความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานในจีนกับโกลบอล ไทมส์
คอร์ซินอฟสกี้กล่าวว่า “โฟล์คสวาเกนดำเนินกิจการในประเทศจีนมาประมาณ 40 ปีแล้ว เพื่อที่จะสร้างมูลค่าที่มากขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา กลุ่มโฟล์คสวาเกนกำลังก้าวสู่นวัตกรรมอีกขั้นในจีน และผลักดันกระบวนการดิจิทัลอย่างเป็นระบบ อีกทั้ง บริษัทกำลังเสริมสร้างความสามารถในท้องถิ่นด้วยประสิทธิภาพการตัดสินใจที่รวดเร็วยิ่งขึ้น”