จัดประชุมกลไกคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีจีน-อินโดนีเซียครั้งที่ 5 ที่กรุงปักกิ่ง

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รมต.ต่างประเทศจีน และนางเร็ตโน มาร์ซูดี รมต.ต่างประเทศอินโดนีเซีย เป็นประธานร่วมจัดการประชุมกลไกคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีจีน-อินโดนีเซียครั้งที่ 5 ที่กรุงปักกิ่ง

หวังอี้กล่าวว่า ภายใต้การชี้นำเชิงกลยุทธ์ของประมุขสองประเทศ ความเชื่อถือทางการเมืองระหว่างจีนและอินโดนีเซียยังคงจะเป็นไปอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ร่วมกันได้รับผลสำเร็จ การประสานงานด้านกิจการระหว่างประเทศและส่วนภูมิภาคมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งความร่วมกันและสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน จีนพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับอินโดนีเซียจากมุมมองเชิงยุทธศาสตร์และระยะยาวมาโดยตลอด ยินดีที่จะร่วมกันเพื่อปฏิบัติตามฉันทามติสำคัญที่ผู้นำทั้งสองประเทศบรรลุไว้ ผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและอินโดนีเซียให้ก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง สนับสนุนสองประเทศในกระบวนการก้าวสู่ความทันยุคทันสมัยของประเทศตน

นายหวัง อี้ กล่าวว่า การประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 ได้จัดวางแนวทางการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งและส่งเสริมการเสริมสร้างความทันสมัยแบบจีน การที่จีนเร่งการพัฒนาคุณภาพสูงและขยายการเปิดสู่ภายนอก จะอำนวยโอกาสใหม่ให้กับความร่วมมือจีน-อินโดนีเซียและการพัฒนาส่วนภูมิภาค

ด้านนางเร็ตโน มาร์ซูดี กล่าวว่า จีนได้กลายเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของอินโดนีเซีย ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา การลงทุนทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความร่วมมือเชิงปฏิบัติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน อินโดนีเซียประเมินความเชื่อถือซึ่งกันและกันและมิตรภาพอันลึกซึ้งที่อินโดนีเซียได้สร้างไว้กับจีน จะถือการครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศเป็นโอกาสในการพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับจีน ยินดีที่จะดำเนินความร่วมมือพหุภาคีกับจีนอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคีนิยม และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา สองฝ่ายจะรับประกันการดำเนินงานอย่างปลอดภัยและมั่นคงในระดับสูงของทางรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของความร่วมมือในด้านรถยนต์พลังงานใหม่ แบตเตอรี่ลิเธียม พลังงานโซลาร์เซลล์และเศรษฐกิจดิจิทัล และขยายการลงทุนในกันและกัน ความร่วมมือด้านผลิตผลการเกษตร และการแลกเปลี่ยนทางบุคลากรและวัฒนธรรม