พลังการประมวลผลที่แข็งแกร่งของมณฑลกุ้ยโจวช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่อุตสาหกรรม
มนุษย์กระพริบตาครั้งละ 100 มิลลิวินาที การส่งผ่านข้อมูลด้วยเครือข่ายสายออพติคระยะทางกว่า 2,808 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 14 มิลลิวินาที
“การกระพริบเพียงครั้งเดียวเทียบเท่ากับเวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูลจากเมืองกุ้ยหยางถึงเมืองหนิงโปได้มากกว่าเจ็ดครั้ง” จาง หมิงหลง ผู้จัดการอาวุโสที่ไชน่าโมบายกล่าว พร้อมอธิบายถึงความล่าช้าที่ต่ำมากและการส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพของ “ช่องทางพลังการประมวลผลของ 400G แห่งแรกในโลก”
นี่คือพลังที่มีอยู่ในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นเขตนำร่องข้อมูลขนาดใหญ่แห่งชาติแห่งแรกของประเทศ และเป็นหนึ่งในผู้นำในการแข่งขันด้านพลังการประมวลผล
ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 พลังการประมวลผลโดยรวมของกุ้ยโจวสูงถึง 40.55 อีฟลอปส์ (EFLOPS) ทำให้ภูมิภาคนี้อยู่ในกลุ่มแนวหน้าของประเทศ EFLOPS เป็นหน่วยวัดที่ใช้กำหนดความเร็วของคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีพลัง 1 EFLOPS สามารถประมวลผลงานในขนาดที่มีทศนิยมลอยได้ถึง 1 ล้านล้านครั้งต่อวินาที
การเติบโตของพลังการประมวลผลนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง
มณฑลกุ้ยโจวมีศูนย์ข้อมูลหลัก 47 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือดำเนินการอยู่ รวมถึงศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มากและขนาดใหญ่ 25 แห่ง
ศูนย์ข้อมูลของบริษัทไชน่า โมบาย หนึ่งในผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ ที่เขตใหม่กุ้ยอัน เมืองกุ้ยหยาง
มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ศูนย์ข้อมูลที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ใหม่กุ้ยอันคือศูนย์ข้อมูลของบริษัทไชน่า โมบาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ
ภายในอาคารศูนย์ข้อมูลขนาด 190,000 ตารางเมตร มีตู้มาตรฐานเกือบ 30,000 ตู้ และเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 40,000 เครื่อง กำลังทำงานด้วยความเร็วสูง
กุ้ยโจวมีอะไรดีถึงดึงดูดศูนย์ข้อมูลและบริษัทเหล่านี้
ด้วยข้อได้เปรียบทางธรรมชาติ เช่น สภาพภูมิอากาศ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับกลยุทธ์บิ๊กดาต้าที่มีมานานนับทศวรรษ ศูนย์กลางเครือข่ายพลังการประมวลผลแบบบูรณาการระดับชาติ และความเป็นผู้นำการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง กุ้ยโจวมีจุดแข็ง “โดยกำเนิด + ที่ได้มาภายหลัง” ซึ่งถูกแปลงเป็นพลังขับเคลื่อนภายในเพื่อเสริมสร้างรากฐานพลังการประมวลผลอย่างต่อเนื่อง
กุ้ยโจวตั้งเป้าที่จะสร้างคลัสเตอร์พลังประมวลผลที่ใหญ่ที่สุดของจีนภายในปี 2568 ซึ่งรวมถึงการปรับใช้ชิปอัจฉริยะมากกว่า 600,000 ตัว ทำให้มีความสามารถในการประมวลผลเกิน 180 EFLOPS และจัดเก็บข้อมูลได้มากกว่า 25EB (1 EB=หนึ่งล้านล้านล้านไบต์)
นอกจากนี้ กุ้ยโจวยังทำงานเพื่อลดช่องว่างระหว่างทรัพยากรการประมวลผลและสถานการณ์การใช้งานอีกด้วย
โรงงานที่เชื่อมต่อ 5G เต็มรูปแบบแห่งแรกของกุ้ยโจว ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทกุ้ยโจว ไทร์ (Guizhou Tyre Co., Ltd.) ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะ เซ็นเซอร์ และกล้องอุตสาหกรรม สำหรับการเชื่อมต่อโครงข่ายอุตสาหกรรมไร้สายและกำหนดเวลาการผลิต ส่งผลให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 400
กุ้ยโจวใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านข้อมูลและการประมวลผลอันกว้างขวางเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่อุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการพยากรณ์อากาศ อีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว และการก่อสร้างชนบทดิจิทัล
เริ่มต้นจากศูนย์ กุ้ยโจวได้กลายเป็นศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ให้บริการด้านพลังงานการประมวลผลในจีนตอนใต้ โดยตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลของโครงการกว่า 3,600 โครงการในอุตสาหกรรมบันเทิง
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2567 กุ้ยหยางได้มอบใบอนุญาตสำหรับการทดสอบการขับขี่แบบไร้คนขับเป็นครั้งแรกให้กับ Robobus รถมินิบัสที่พัฒนาโดยบริษัท PIX Moving
เฉ่า ยี่ว์เถิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ PIX Moving เน้นย้ำว่า การทำงานของรถบัสไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการวิ่งอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังการประมวลผลที่น่าประทับใจของบริษัทอีกด้วย
PIX Moving มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงและตรวจสอบความสามารถในการเรียนรู้แบบอัตโนมัติของ Robobus ในแง่ของฟังก์ชันการทำงาน ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยพลังการประมวลผลทำหน้าที่เป็นรากฐานสำหรับความก้าวหน้าเหล่านี้
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 กุ้ยโจวได้เปิดตัวกิจกรรมแจกคูปองพลังการประมวลผลเพื่อสนับสนุนและจูงใจบริษัท มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และอื่น ๆ ให้ซื้อบริการด้านพลังประมวลผล ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม มีการออกคูปองพลังการประมวลผลทั้งหมด 128 ใบ มูลค่า 2.04 พันล้านหยวน (ประมาณ 288 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในปี 2566 อุตสาหกรรมบริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีสารสนเทศของกุ้ยโจวสร้างรายได้ 85.62 พันล้านหยวน โดยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 20.7 อนึ่ง เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 42 ของ GDP ของกุ้ยโจว