ททท. ร่วมกับแอตต้าจัดงาน TAT & ATTA Road Show to China 2024 นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยพบปะผู้ประกอบการจีนในกรุงปักกิ่ง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า (ATTA) สถาบันวิจัยแห่งชาติ และกลุ่มคิงพาวเวอร์จัดงานประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย 2024-โร้ดโชว์ในจีน (TAT & ATTA Road Show to China 2024) ที่กรุงปักกิ่ง โดยนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากไทย 60 แห่งพบปะผู้ประกอบการจีนกว่า 370 แห่ง ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงปักกิ่ง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพและเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนมากยิ่งขึ้น
ภาพเอื้อเฟื้อโดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงปักกิ่ง
ภายในงานมีการประชาสัมพันธ์โครงการใหญ่ในรอบปีให้แก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในชื่อโครงการ “Nihao Month” (เดือนมิตรภาพไทย-จีน) ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป โดยจะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายอย่าง เช่น ร่วมกับพันธมิตรแพลตฟอร์มออนไลน์ในตลาดจีน เช่น Ctrip, Unionpay เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย, กิจกรรมวันไหว้พระจันทร์ สานสัมพันธ์ไทย-จีน, กิจกรรมรวบรวมอินฟลูเอนเซอร์ เป็นต้น
ฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวสุนทรพจน์ในงานใจความส่วนหนึ่งว่า ไทยและจีนมีความสัมพันธ์แนบแน่นมาอย่างยาวนานในทุกมิติโดยเฉพาะในปี 2568 ซึ่งจะครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีนอันจะเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้เพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างกันโดยไทยและจีนจะร่วมจัดกิจกรรมเพื่อฉลองความสัมพันธ์นี้ตั้งแต่เดือนกันยายน ทาง ททท. จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “Nihao Month” ให้แก่นักท่องเที่ยวจีน โดยจะได้รับส่วนลดในการซื้อสินค้าที่ร้านที่มีป้าย “Nihao Month” ไทยและจีนต่างชื่นชมชื่นชอบวัฒนธรรมของกันและกัน นอกจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตที่เป็นจังหวัดที่ชาวจีนนิยมท่องเที่ยว ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนเยี่ยมชมเพื่อสัมผัสจังหวัดที่เป็นเมืองน่าเที่ยวอื่น ๆ ในไทยด้วย คาดว่าภายในสิ้นปีไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนรวมประมาณ 7-8 ล้านคน ในทางกลับกันปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวไทยมาจีนก็เพิ่มขึ้นมากเพราะคนไทยชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยว อากาศและอาหารอร่อย ๆ ของจีนรวมทั้งวัฒนธรรมที่มีความเป็นมายาวนานและล้ำลึก และความหลากหลายในแต่ละท้องถิ่น เมื่อการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนเป็นไปในลักษณะแลกเปลี่ยนแบบทั้งสองฝ่าย จึงเห็นอนาคตที่สดใสของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและจีน
ดร.ไต้ ปิน อธิการบดี สถาบันวิจัยการท่องเที่ยวจีนและผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูล กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนกล่าวสุนทรพจน์ในงานว่า ประเทศจีนและประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญสำหรับกันและกัน และเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้เร็วที่สุด ตั้งแต่ยุค 90 ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีน ตลอดระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางของชาวจีนที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุด
ดร.ไต้ ปินกล่าวว่า จีนและไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ และได้รับความพึงพอใจสูงจากนักท่องเที่ยว ในปี 2566 ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวจีนที่ไปไทยอยู่ที่ 81.87 คะแนน ติดอันดับที่หกในประเทศและภูมิภาคที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนที่ได้รับการสำรวจข้อมูล ซึ่งเป็นที่น่าพอใจมาก ชาวจีนมีทัศนคติที่ดีต่อคนท้องถิ่นในไทย รวมถึงคะแนนความคุ้มค่าในด้านความบันเทิงและการชอปปิงก็สูง ในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวจากไทยที่มาเยือนจีนมีความพึงพอใจอยู่ที่ 83.48 คะแนน ซึ่งสูงกว่าความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยรวม อย่างที่น่ากล่าวถึงคือนักท่องเที่ยวจากไทยให้การยอมรับในอาหารจีนอย่างมาก รวมถึงมองว่าอาหารไทยนั้นปรุงแต่งได้อย่างมีเอกลักษณ์ สามารถกล่าวได้ว่าการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีนและไทยได้รับผลดีจากความไว้วางใจทางการเมือง ความเข้าใจในใจของประชาชน และการติดต่อทางเศรษฐกิจ และยังได้รับประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศอีกด้วย ปัจจุบัน การแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่างจีนและไทยกำลังพบกับโอกาสใหม่ในการพัฒนาอย่างรุ่งเรือง เชื่อว่าไม่นานนี้จะสามารถฟื้นตัวและเกินระดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ได้
ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ในเรื่องความร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวของจีนว่า “เราต้องการความร่วมมืออย่างลึกซึ้ง เพราะตอนนี้ความต้องการของนักท่องเที่ยวแตกต่างจากเมื่อก่อน เราจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญและตั้งใจในการให้บริการ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้บริการนักท่องเที่ยวได้ดี และจะต้องปรับบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มคนและความต้องการที่แตกต่างกัน”
เมื่อพูดถึงการเดินทางในปัจจุบันของคนหนุ่มสาวจีน ส่วนใหญ่ชอบเดินทางแบบอิสระ ไม่ค่อยนิยมใช้บริการจากบริษัททัวร์ ทางแอตต้ามีแผนอย่างไรที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เดินทางผ่านบริษัททัวร์เพื่อเที่ยวไทยมากขึ้น
นายกสมาคมแอตต้ากล่าวว่า สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจะได้รับการประกันสูงสุดเมื่อเที่ยวกับบริษัททัวร์ อีกทั้งบริษัททัวร์สามารถนำพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง บางกลุ่มที่ชอบเดินทางแบบอิสระจะทำการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แต่ข้อมูลบนโลกออนไลน์อาจไม่ถูกต้องเสมอไป ดังนั้น เพื่อที่จะเข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง และสัมผัสกับบรรยากาศต่างประเทศ ควรมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมาอธิบาย เพื่อให้การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศได้ผลลัพธ์ที่แท้จริง และขอเน้นว่าต้องเที่ยวกับบริษัททัวร์ที่มีคุณภาพ ไม่ใช้ราคาถูกในการตัดสินใจเป็นหลักแต่ต้องดูความน่าเชื่อถือด้วย
ภาพเอื้อเฟื้อโดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงปักกิ่ง
ยลรวี สิทธิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงปักกิ่ง กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ว่า เป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในปี 2567 อยู่ที่ 7.3 ล้านราย และข้อมูลล่าสุดยอดรวมนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ส.ค. 2567 อยู่ที่ 4.8 ล้านคน ทั้งนี้ คาดว่าด้วยอุณหภูมิที่จะหนาวเย็นในปักกิ่ง ทางตอนเหนือของจีนและมณฑลอื่น ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากเดินทางเข้าไทย โดยใช้โอกาสดีในช่วงเวลานี้เพิ่มเที่ยวบินเหมาลำนักท่องเที่ยวจากจีนลงกระบี่ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยว