สัมผัส “โลกที่มีสีสัน” ในงาน CIFTIS ปี 2024
นายวรพจน์ เจนสวัสดิชัย อัครราชทูตประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ในงานพิธีเปิดนิทรรศการ “Colorful World” ครั้งที่ 9 ภายใต้งานมหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติจีน หรือ CIFTIS 2024 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่สวนโส่วกัง นายวรพจน์ เจนสวัสดิชัย อัครราชทูตประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่งให้สัมภาษณ์กับพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ว่า ในแง่ความสัมพันธ์ทางการค้าภาคบริการระหว่างไทย-จีน ไทยเน้นความสัมพันธ์เรื่องสินค้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าการเกษตรหรือสินค้าที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และยิ่งในปีนี้เป็นปีที่สำคัญที่ไทยและจีนมีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง สำหรับงานในครั้งนี้ ไทยได้นำโบรชัวร์ด้านการท่องเที่ยว สมุนไพรและวัตถุดิบที่ใช้ทำกับข้าวมาประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีสินค้ามวยไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำด้วยผ้าไหมไทย งานในครั้งนี้ ผมรู้สึกดีมากที่ได้มาร่วมงาน และได้ชมบูธครบทุกทวีป ทวีปแอฟริกา ทวีปลาตินอเมริกา ทวีปเอเชีย ประทับใจมากครับ
นายอาลาดิน จากบริษัทเยเมน แฮนดิคราฟท์จัดแสดงสินค้าภายในบูธของสถานเอกอัครราชทูตเยเมนให้สัมภาษณ์กับพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ว่า “งาน CIFTIS เป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการทำการตลาด สำหรับบริษัทต่างประเทศที่ได้มาร่วมในมหกรรมครั้งนี้ ทางการจีนสร้างนโยบายที่เปิดรับบริษัทต่างชาติในการนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ มาสู่จีน และยินดีต้อนรับบริษัทต่างชาติมาลงทุนในจีนเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจการค้าระหว่างกัน เยเมนเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศอาหรับ เราเป็นหนึ่งในเส้นทางของหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งส่งเสริมการเติบโตทางยอดขายของเรา เราได้รับความสะดวกจากการดำเนินการศุลกากรและเข้าร่วมหลายมหกรรมของจีน โดยเฉพาะงาน CIFTIS เป็นหนึ่งในงานที่ใหญ่ที่สุดของจีน”
ในส่วนของรายได้ นายอาลาดินกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เปิดกิจการในจีนมา 2560 บริษัทมีรายได้ต่อปีประมาณ 10 ล้านหยวน จีนเป็นตลาดขนาดใหญ่และเรานำเสนอสินค้าหลากหลายชนิดทั้งอาหาร วัฒนธรรม เช่นงานหัตถกรรม จิวเวลรี่ ตลาดจีนกำลังเติบโตและพัฒนาไปอย่างดี ผมอยากเชิญให้เข้าร่วมตลาดจีนเพราะรัฐบาลจีนยินดีต้อนรับทุกประเทศเพื่อมาสร้างความเติบโตทางธุรกิจร่วมกัน
นายอาลาดิน จากบริษัทเยเมน แฮนดิคราฟท์จัดแสดงสินค้าภายในบูธของสถานเอกอัครราชทูตเยเมน
ให้สัมภาษณ์กับพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
นายเซียว สวี เจ้าของบริษัทเยว่หนานผิงฝูหงชื่อ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ว่า มาร่วมงานเป็นครั้งที่ 2 สินค้าของบริษัทคือผลิตภัณฑ์ทุเรียนหมอนทองอบแห้ง และผลไม้อบแห้ง แม้ว่าตนเองจะเป็นคนจีนแต่ก็เลือกผลิตสินค้าในเวียดนาม เพราะวัตถุดิบในจีนไม่มีและต้นทุนการแปรรูปที่ถูกกว่าในจีน รวมทั้งตนยังได้เปิดโอกาสในการสร้างงานให้แก่ชาวเวียดนามถึง 60 คน โดยในปีที่ผ่านมารายได้จากการขายในจีนอยู่ที่ประมาณสองล้านหยวน
นายเซียว สวี เจ้าของบริษัทเยว่หนานผิงฝูหงชื่อ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวพีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์
(พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)