จีนบูรณะพระราชวังอายุ 500 ปี บนแกนกลางกรุงปักกิ่งเสร็จสมบูรณ์

(People's Daily Online)วันพุธ 18 กันยายน 2024


อาคารหลักภายในพระราชวังชิ่งเฉิงในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 (ซินหัว)

ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น งานบูรณะพระราชวังชิ่งเฉิง สถานที่ประกอบพิธีบูชาของจักรพรรดิ บนเส้นทางประวัติศาสตร์แกนกลางกรุงปักกิ่งเสร็จสมบูรณ์

หลังจากใช้เวลารื้อและบูรณะอาคารขึ้นใหม่ 15 เดือน โครงสร้างของอาคารพระราชวังแห่งนี้ได้รับการบูรณะและคาดว่าจะเปิดให้บริการแก่สาธารณชนได้ในอนาคต

พระราชวังแห่งนี้ เดิมมีชื่อว่า “ไจกง” สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) ตั้งอยู่ภายในสถานที่บูชาเทพแห่งการเกษตร หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดเซียนหนงถาน เป็นสถานที่ที่จักรพรรดิใช้งดอาหารมื้อหนักและนั่งสมาธิก่อนประกอบพิธีสักการะบูชา

ในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1911) พระราชวังแห่งนี้ได้ถูกตั้งชื่อเป็น “พระราชวังชิ่งเฉิง” สถานที่สำหรับจักรพรรดิประกอบพิธีเฉลิมฉลองหลังจากพิธีเพาะปลูก พร้อมขอพรให้มีการเก็บเกี่ยวพืชผลที่ดี

งานบูรณะพระราชวังโบราณแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ด้วยแนวทางการบูรณะเชิงอนุรักษ์ที่มุ่งซ่อมแซมเฉพาะส่วนโบราณวัตถุที่พังเสียหาย เช่น กระเบื้องและกำแพง และนำวัสดุแบบดั้งเดิมมาใช้ปูพื้นบริเวณลาน

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำใหม่ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่จำเป็นภายในพระราชวัง รวมทั้งติดตั้งระบบเฝ้าติดตามความปลอดภัย ระบบน้ำสำหรับดับเพลิง และอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า

พาน เหว่ย รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโบราณปักกิ่ง เผยความคาดหวังว่า พระราชวังชิ่งเฉิงจะกลายเป็นสถานที่ที่ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิม ขณะที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญได้มาแลกเปลี่ยนทางวิชาการเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมโลก โดยเชื่อว่ากิจกรรมเหล่านี้ “จะสามารถเพิ่มความตระหนักรู้ของประชาชนในเรื่องการคุ้มครองมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม”

อนึ่ง เส้นแกนกลางปักกิ่ง ทอดตัวยาว 7.8 กิโลเมตรจากประตูหย่งติ้งทางตอนใต้จนถึงหอกลองและหอระฆังทางตอนเหนือของเมือง สร้างขึ้นตามโครงร่างหลักของเมืองหลวงในอุดมคติ ซึ่งมีราชสำนักอยู่ด้านหน้า ตลาดอยู่ด้านหลัง ศาลบรรพชนอยู่ด้านซ้าย และสถานที่ประกอบพิธีกรรมบูชาอยู่ด้านขวา และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เส้นแกนกลางปักกิ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากสหประชาชาติ (UN) ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม