จีนออกนโยบายเพิ่มขึ้นเพื่อผลักดันการยกระดับอุตสาหกรรม

จ้าว จื้อกั๋ว โฆษกและหัวหน้าวิศวกรของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (23 ต.ค.) ว่า การนำนโยบายที่เพิ่งออกเพิ่มขึ้นไปปฏิบัติตามจะช่วยปลดปล่อยโมเมนตัมในการยกระดับอุตสาหกรรมศักยภาพของการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความมีชีวิตชีวาขององค์กรธุรกิจ “เรามั่นใจในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประจำปี”

จ้าวให้ข้อสังเกตว่าในช่วงสามไตรมาสแรก มูลค่าเพิ่มของวิสาหกิจอุตสาหกรรมที่มีขนาดสูงกว่าที่กำหนด เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมโดยรวมคิดเป็นร้อยละ 31.8 ของ GDP จีน

มณฑลอุตสาหกรรมหลัก 9 แห่ง มีการเติบโตอย่างเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ โดยเมืองอุตสาหกรรมที่สําคัญ เช่น เจิ้งโจว เส้าซิง เวินโจว และเหอเฝย มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

จ้าวกล่าวว่า ในช่วงสามไตรมาสแรก มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ด้วยจำนวน 21.47 ล้านคัน และยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เป็นจำนวน 21.571 ล้านคัน ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่สูงถึง 8.32 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 32.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา สัดส่วนการขายของรถยนต์นั่งโดยสารพลังงานใหม่เกินร้อยละ 50 อย่างต่อเนื่อง นับเป็นการบรรลุความก้าวหน้าครั้งใหม่

หวาง เผิง นักวิจัยร่วมจากสถาบันบัณฑิตย์สังคมศาสตร์แห่งปักกิ่ง กล่าวกับโกลบอล์ ไทมส์ เมื่อวันพุธว่า“ตัวเลขบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยังคงมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ โดยทําหน้าที่เป็น ‘บัลลาสต์’ (ballast) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายที่แข็งแกร่ง รวมถึงการปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เหมาะสม”

หวางตั้งข้อสังเกตว่านโยบายที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการลงทุนในนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการอัพเกรดเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันหลักของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวจะนําทรัพยากรไปรวมกลุ่มในสาขาอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง