รมว.ต่างประเทศจีนระบุ การเดินทางเยือนละตินอเมริกาของ ปธน.สี จิ้นผิงส่งเสริมมิตรภาพ ความสามัคคี ความร่วมมือ และการพัฒนา

วันที่ 23 พ.ย. นายหวัง อี้ กรรมการกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า การเยือนละตินอเมริกาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่เพิ่งเสร็จสิ้นลง ถือเป็นการเดินทางแห่งมิตรภาพ การเดินทางแห่งความสามัคคีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันและเป็นการเดินทางแห่งความร่วมมือเพื่อขยายความเป็นหุ้นส่วน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคครั้งที่ 31 และเยือนเปรูอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ครั้งที่ 19 และเยือนบราซิลอย่างเป็นทางการตามคำเชิญระหว่างวันที่ 13 ถึง 23 พฤศจิกายน ได้เข้าร่วมกิจกรรมทวิภาคีและพหุภาคีเกือบ 40 ครั้ง และได้บรรลุเอกสารความร่วมมือมากกว่า 60 ฉบับ

จากเมืองลิมาไปยังเมืองริโอเดอจาเนโร ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งในการยึดมั่นในกลไกพหุภาคี และการบริหารระดับโลกด้วยภูมิปัญญาจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของจีนในฐานะประเทศขนาดใหญ่ที่มีความรับผิดชอบด้วยความเป็นธรรม ความยุติธรรม ความกล้าหาญ ความเปิดกว้างอย่างครอบคลุม

ผู้นำสูงสุดของจีนได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่เมืองลิมา และระบุเป็นลายลักษณ์อักษรต่อการประชุมสุดยอดซีอีโอ โดยเรียกร้องให้เขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยึดมั่นในกลไกพหุภาคีที่แท้จริงอย่างต่อเนื่อง สร้างกรอบความร่วมมือแบบเปิดกว้างและเชื่อมโยงสำหรับเอเชีย-แปซิฟิก สร้างนวัตกรรมสีเขียวให้เป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยึดมั่นในแนวคิดที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและครอบคลุมสำหรับการพัฒนาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเด็นการพัฒนามาโดยตลอด ในการประชุมสุดยอด G20 ที่เมืองริโอเดอจาเนโร ผู้นำจีนได้อธิบายแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารจัดการระดับโลกอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่การพัฒนาระดับโลกต้องมีความครอบคลุมมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ตลอดจนสร้างโลกที่มีความยุติธรรมและพัฒนาร่วมกัน และยังเรียกร้องให้สร้างเศรษฐกิจโลกที่โดดเด่นด้วยความร่วมมือ ความมั่นคง เปิดกว้าง นวัตกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แถลงแปดมาตรการของจีนที่สนับสนุนการพัฒนาโลก รวมถึงการเข้าร่วมพันธมิตรระดับโลกต่อต้านความหิวโหยและความยากจน

ความคิดริเริ่มเหล่านี้ได้ตอบสนองต่อเจตจำนงอันแข็งแกร่งของกลุ่มประเทศโลกใต้ (the Global South) ที่ต้องการแสวงหาความเท่าเทียมส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งได้กำหนดแนวทางที่ถูกต้องในการปรับปรุงการบริหารระดับโลก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พบปะเจรจาทวิภาคีมากกว่า 10 ครั้งนอกรอบการประชุมพหุภาคี ขณะพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ผู้นำทั้งสองประเทศได้เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มั่นคงนั้น ไม่เพียงสำคัญต่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอนาคตและชะตากรรมของมนุษยชาติโดยรวม

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงหลักการและจุดยืนของจีนในประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น ปัญหาไต้หวัน โดยเรียกร้องให้ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต้องแบกรับความรับผิดชอบของประเทศขนาดใหญ่ และแสวงหาแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศใหญ่ทั้งสองอยู่ร่วมกันได้ด้วยเสถียรภาพและเพิ่มพลังบวกให้กับโลกมากขึ้น