เอไอช่วยเสริมการพัฒนาดิจิทัลของอุตสาหกรรมโลก
ประชาชนเยี่ยมชมมหกรรม Light of Internet Expo ภายใต้การประชุมสุดยอดอูเจิ้น หรือการประชุมอินเทอร์เน็ตโลก
ในตำบลอูเจิ้น มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 (ซินหัว)
จีนเป็นบ้านของโรงงานอัจฉริยะและเวิร์กชอปดิจิทัลจำนวนเกือบ 10,000 แห่งทั่วประเทศ ตามการรายงานที่เผยแพร่จากสถาบันไซเบอร์สเปซศึกษาแห่งชาติจีนเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) เน้นย้ำถึงบทบาทของการเปลี่ยนแปลงของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรม
รายงานการพัฒนาอินเทอร์เน็ตของจีนประจำปี ค.ศ. 2024 ซึ่งเผยแพร่ในระหว่างการประชุม World Internet Conference (WIC) ประจำปี ค.ศ. 2024 ระบุว่า ในจำนวนนี้ มีโรงงาน 421 แห่งที่เป็นโรงงานสาธิตการผลิตอัจฉริยะระดับชาติ โดยร้อยละ 90 ของโรงงานทั้งหมดใช้เทคโนโลยี เช่น AI และแฝดดิจิทัล อนึ่ง WIC หรือการประชุมสุดยอดอูเจิ้นจัดขึ้นในตำบลอูเจิ้น มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน
รายงานดังกล่าววิเคราะห์การพัฒนาความสำเร็จ และแนวโน้มในอนาคตของจีนในด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล เศรษฐกิจดิจิทัล ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการกำกับดูแลทางไซเบอร์สเปซตามกฎหมาย
รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่า ภายในสิ้นปี 2566 จำนวนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ทางด้าน AI ที่ยังคงมีผลใช้งานในจีนมีจำนวนถึง 378,000 ฉบับ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมากกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยทั่วโลก 1.4 เท่า
ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2566 จีนได้ยื่นขอสิทธิบัตรปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์มากกว่า 38,000 ฉบับ ซึ่งถือเป็นอันดับหนึ่งของโลก แอปพลิเคชัน AI เชิงสร้างสรรค์ได้เข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีโมเดลขนาดใหญ่กว่า 100 โมเดลที่มีพารามิเตอร์มากกว่า 1 พันล้านรายการในจีนตามสถิติ ณ เดือนมีนาคม 2567
AI ยังคงขยายขอบเขตการใช้งานไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมีโมเดลขนาดใหญ่เฉพาะภาคส่วนที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับสาขาต่าง ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ การดูแลสุขภาพ และการขนส่ง ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโมเดลการใช้งานหลายร้อยแบบ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิม
ตัวอย่างเช่น Alibaba Group มุ่งมั่นที่จะพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเองให้เป็นโอเพ่นซอร์ส อู๋ หย่งหมิง ซีอีโอของ Alibaba Group กล่าวในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่า จนถึงปัจจุบัน มีโมเดลโอเพ่นซอร์สมากกว่า 100 โมเดลที่พร้อมใช้งานบน "Qwen" ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Alibaba Cloud โดยมียอดดาวน์โหลดสะสมมากกว่า 40 ล้านครั้ง
อู่ หย่งหมิง กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 นักพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 8 ล้านคน มีส่วนร่วมอย่างเข้มข้นในการพัฒนาโมเดลและการใช้งานในชุมชนโมเดลเปิด AI ของ Alibaba ที่เรียกว่า "ModelScope" การเปิดให้โมเดลเหล่านี้เป็นโอเพนซอร์สช่วยลดอุปสรรคในการพัฒนาและการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การนำ AI ไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น
ตามที่ หวาง ไห่เฟิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของป่ายตู้กล่าว ในทำนองเดียวกัน "ERNIE Agent" ที่พัฒนาโดยป่ายตู้ (Baidu) ได้เสริมสร้างขีดความสามารถของโมเดลพื้นฐาน ERNIE ของป่ายตู้อย่างมีนัยสำคัญ และขับเคลื่อนแอปพลิเคชันที่แพร่หลายอยู่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งดึงดูดนักพัฒนามากกว่า 800,000 รายและองค์กร 150,000 แห่ง
จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาดไอดีซี (International Data Corporation) ระบุว่า ในปี 2566 ขนาดตลาดแพลตฟอร์มโมเดลใหญ่และแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องของจีนมีมูลค่าถึง 1.77 พันล้านหยวน (ประมาณ 243.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ รายงานการพัฒนาอินเทอร์เน็ตโลกประจำปี ค.ศ. 2024 ยังได้ถูกเผยแพร่ในที่ประชุมสุดยอด โดยระบุว่า แนวโน้มที่สดใสของอุตสาหกรรมในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต้องลงทุนในการวิจัย AI อย่างมาก
ในปี 2566 วงการอุตสาหกรรมได้ผลิตโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องจักรที่โดดเด่น 51 โมเดล ขณะที่วงการวิชาการผลิตได้เพียง 15 โมเดล การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ข้อมูล และทรัพยากรการคำนวณที่จำกัดในแวดวงวิชาการทำให้ผู้มีความสามารถหันมาสนใจภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมมีความได้เปรียบในด้านการวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น
รายงานทั้งสองฉบับที่กล่าวถึงข้างต้นได้รับการเผยแพร่ต่อเนื่องเป็นเวลาแปดปีนับตั้งแต่ปี 2560 โดยเป็นผลสำเร็จจาก WIC