เซินเจิ้นกับการพัฒนาธุรกิจจากเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยไม่ทิ้งสิ่งแวดล้อม
พีเพิลส์ เดลี่ออนไลน์จัดกิจกรรมนำพันธมิตรงานข่าวหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road News Network) ร่วมสำรวจการพัฒนาทางนวัตกรรมของเขตความร่วมมืออุตสาหกรรมบริการสมัยใหม่เฉียนไห่ เซินเจิ้น-ฮ่องกง ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 โดยสื่อต่างชาติจากประเทศจีนและประเทศต่าง ๆ กว่า 15 คน เข้าร่วมกิจกรรม
กิจกรรมครั้งนี้ทางคณะนักข่าวได้เยี่ยมชมธุรกิจของบริษัทเอกชนชั้นนำในเซินเจิ้น ซึ่งแต่ละที่ต่างมีเอกลักษณ์และความน่าสนใจในด้านการประกอบธุรกิจและพัฒนาให้เติบโตไปทั่วโลกโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ ในขณะเดียวกันก็ยังคงคำนึงถึงการรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างดี บ่งบอกให้เห็นถึงการพัฒนาสู่ความทันสมัยในแบบจีนอย่างชัดเจน
สินค้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สร้างรายได้จากทั่วโลก
B.Duck บริษัทที่ประกอบธุรกิจขายลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ (ไอพี) ขนาดใหญ่ที่สุดในจีนและเป็นบริษัทที่มีรายได้สูงสุดลำดับที่สี่ของบริษัทผู้ประกอบธุรกิจไอพีคาแรคเตอร์ในจีนในช่วงปี 2564-2566 และตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันมูลค่าการค้าปลีกรวมของธุรกิจสิทธิบัตร B.Duck เกินกว่า 2.55 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยจำนวนสินค้าคาแรคเตอร์ในครอบครัว B.Duck มากกว่า 43,000 รายการ (SKUs) ที่ถูกขายไปทั่วจีนและทั่วโลก และมีผู้รับใบอนุญาตลิขสิทธิ์ของ B.Duck แล้ว 455 ราย ทั้งนี้ รายได้จากการประกอบธุรกิจด้านลิขสิทธิ์ในปี 2566 อยู่ที่ 71.6 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ติดหนึ่งในห้าอันดับท๊อปชาร์ตการจัดลำดับตลาดธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ของจีนและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง นอกจากประสบความสำเร็จทางรายได้แล้ว บริษัทฯ ก็ไม่ทิ้งสิ่งแวดล้อม โดยเอ็ดดี้ ฮุย ประธาน ซีอีโอและกรรมการบริหารกล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยมีความมุ่งมั่นให้ผู้คนทั่วโลกมีความสนุกสนาน และในขณะเดียวกันบริษัทฯ มีการบริหารธุรกิจตามโครงการ ESG (Environmental, Social, Governance) ที่คำนึงถึงหลักความยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยการให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลอย่างมีธรรมาภิบาล
คณะนักข่าวถ่ายภาพที่ระลึกที่สำนักงานใหญ่ของ B.Duck ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน เมื่อวัน
ที่ 3 ธันวาคม 2567 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
นอกจากนี้ ทางคณะนักข่าวฯ ยังได้เยี่ยมชมบริษัทท้องถิ่นที่ปัจจุบันเป็นผู้นำระดับโลกในด้านกล้อง 360 องศา ภายใต้แบรนด์ Insta360 โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ของโลก แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมซึ่งคนรุ่นใหม่มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของเซินเจิ้น ซึ่งอายุเฉลี่ยของพนักงานในบริษัทนี้เท่ากับ 28.5 ปี และบริษัทฯ ยังครองส่วนแบ่งทางตลาดมากกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ของโลก
สองบริษัทที่ได้เยี่ยมชมนี้แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจของจีนสามารถเติบโตและสร้างรายได้จากทั่วโลกได้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างสรรค์ โดยแบรดเลย์ จอห์นสัน บรรณาธิการชาวสหรัฐฯ ของเว็บไซต์ China Daily กล่าวแสดงความคิดเห็นหลังเยี่ยมชมว่า “บริษัททั้งสองเป็นองค์กรที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการบริหารธุรกิจ ผมรู้สึกว่า หากเป็นเมื่อ 20 ปีก่อน พวกเขาคงไม่มีอยู่จริง และทั้ง Insta 360 ที่ใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบไฮเทคและเอไอเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก ๆ และความสำเร็จของ B.Duck อันล้นหลามเกิดขึ้นเพราะเขามุ่งเน้นธุรกิจการออกแบบและยังใช้ประโยชน์จากโลกใหม่ของการออกใบอนุญาต หรือลิขสิทธิ์ IP ทำให้ผมรู้สึกว่าทั้งสองบริษัทเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเช่นนี้ได้อย่างไร และผมคิดว่ามันเป็นความสมเหตุสมผลที่ทั้งสองตั้งอยู่ในเมืองอย่างเช่นเซินเจิ้นและที่เขตเฉียนไห่ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับการเติบโตที่รวดเร็วและการเชื่อมต่อกับตลาดในประเทศและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว”
เทคโนโลยีช่วยปรับไลฟ์สไตล์และสุขภาพ
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ทางคณะนักข่าวฯ ได้เยี่ยมชมบริษัทกู๊ด แฟมิลี่ กรุ๊ป ผู้ให้บริการด้านสุขภาพทางกีฬาแบบดิจิทัลชั้นนำในจีน โดยเปลี่ยนการออกกำลังกายในที่ปิดมาสู่สถานที่เปิดกว้างและสัมผัสกับธรรมชาติ เช่น ลานในสวนสาธารณะและชุมชน โดยใช้นวัตกรรมจากเทคโนโลยีด้านสุขภาพเข้ามามีส่วนช่วยเสริมการออกกำลังกาย เช่น เทคโนโลยีการตรวจวัดมวลร่างกาย สมรรถภาพของร่างกาย และอุปกรณ์กีฬากลางแจ้งที่สามารถปรับให้เข้ากับสมรรถภาพร่างกายของแต่ละคนได้ เพียงผู้ใช้ตรวจวัดร่างกายและใช้มือถือแสกนที่เครื่องก็จะได้รับข้อมูลเฉพาะของตนติดตัว สามารถไปเล่นที่เครื่องไหนก็ได้ทั่วประเทศจีน ซึ่งข้อมูลการออกกำลังกายแต่ละครั้งก็จะถูกบันทึกอยู่ในระบบ ปัจจุบัน ยิมอัจฉริยะกลางแจ้งของบริษัทได้ติดตั้งและใช้งานแล้วในกว่า 150 เมืองทั่วประเทศ และมีผู้ใช้งานรวมกว่า 12 ล้านคน พร้อมทั้งมียอดการใช้งานมากกว่า 100 ล้านครั้ง ยิมอัจฉริยะกลางแจ้งเช่นนี้ช่วยให้ผู้คนสามารถออกกำลังกายได้ 24 ชั่วโมง และเป็นการออกกำลังกายที่นำเทคโนโลยีมาช่วยจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถนำไปวิเคราะห์การปรับปรุงสมรรถภาพร่างกายได้ในระยะยาว
ภาพการตรวจวัดมวลร่างกายและสมรรถภาพของร่างกายโดยการแสกนจากมือ ดวงตาและแรงบีบของมือ หนึ่งในเครื่อง
ตรวจวัดอัจฉริยะของบริษัทกู๊ด แฟมิลี่ กรุ๊ป ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567
(พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์/อะหมัด ซูครี อัซมี)
OCT wetland Park สถานที่เรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ
สวนสาธารณะพื้นที่ชุ่มน้ำโอซีที หรือ OCT wetland Park ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Overseas Chinese Town (OCT) ครอบคลุมพื้นที่ราว 685,000 ตร.ม. ประกอบด้วยพื้นที่ป่าชายเลน 40,000 ตร.ม. พันธุ์นกหายากมากกว่า 100 ชนิดและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พันธุ์นกถึง 100 ชนิด เช่น นกปากช้อนหน้าดำ สัตว์คุ้มครองอันดับสองของชาติและเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำป่าชายเลนในฝั่งเมืองชั้นในเพียงแห่งเดียวในประเทศจีน
ภายในสวนสาธารณะประกอบด้วยสถานที่ให้สัมผัสและเรียนรู้สิ่งแวดล้อมในธรรมชาติมากมาย เช่น โซนเกาะนกกระยางในบริเวณทะเลสาบหัวใจ พื้นที่ทางนิเวศอันทรงคุณค่ามากที่สุดใน OCT และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์นกหายากที่สำคัญ ป่าชายเลนที่มีพื้นที่ครอบคลุมเกือบ 4 ล้านตารางเมตรมีบทบาทสำคัญในการช่วยปกป้องความหลากหลายทางนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นจุดพักที่สำคัญสำหรับนกอพยพ หอชมนก 3 แห่ง ฐานการเรียนรู้ทางระบบนิเวศน์ และพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ระบบนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำ ช่วยให้ผู้คนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของการปกป้องและอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และพื้นที่ชุ่มน้ำ และเป็นห้องเรียนด้านนิเวศที่สำคัญของโรงเรียนธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำโอซีที
สวนฯ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 น. หยุดให้บริการทุกวันจันทร์และพุธ ผู้ต้องการเยี่ยมชมต้องจองล่วงหน้าทางแอปพลิเคชันเนื่องจากจำกัดจำนวนผู้เยี่ยมชมในแต่ละวันเพราะนโยบายของทางสวนฯ ให้ความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของสัตว์ก่อนมนุษย์ เนื่องจากเวลาในช่วงเช้าตรู่และพลบค่ำเป็นเวลาที่สัตว์จะออกมาอยู่สัมผัสกับธรรมชาติมากที่สุด
คณะนักข่าวถ่ายภาพรวมที่ด้านหน้า “Splendid China” หมู่บ้านวัฒนธรรมพื้นบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ในจีนภายใน
OCT Harbour ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
คณะนักข่าวนั่งเรือชมธรรมชาติในทะเลสาบภายในสวนสาธารณะพื้นที่ชุ่มน้ำโอซีทีในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ภาพ
ถ่ายเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
จากการเยี่ยมชม เซินเจิ้นสะท้อนให้เห็นผลของการพัฒนาความทันสมัยแบบจีนโดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ใส่ใจต่อการปกป้องและอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมอย่างเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการพัฒนาสู่ความทันสมัยในแบบจีน
เดสกา ลิเดีย นาตาเลีย นักข่าวชาวอินโดนีเซียจากสำนักข่าวแห่งชาติอินโดนีเซีย (ANTARA) กล่าวแสดงความคิดเห็นหลังเยี่ยมชมเซินเจิ้นว่า สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดคือ OCT Harbour และทุกสิ่งในนั้น ตั้งแต่พื้นที่ชุ่มน้ำไปจนถึง Splendid China (หมู่บ้านวัฒนธรรมพื้นบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ในจีน) และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในพื้นที่ มันทำให้ฉันนึกถึงสภาพอากาศที่มีแสงแดดสดใสของอินโดนีเซียและมรดกทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งที่อินโดนีเซียมีอยู่ด้วย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว และยังได้รับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศจีน
เดสกา ลิเดีย นาตาเลีย นักข่าวชาวอินโดนีเซียจากสำนักข่าวแห่งชาติอินโดนีเซีย (ANTARA) กำลังทดลองแข่งขันออก
กำลังกายโดยเครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะของบริษัทกู๊ด แฟมิลี่ กรุ๊ป ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 4
ธันวาคม 2567 (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์/มณฑา บันดาลศิริกุล)