บทวิเคราะห์: ผลจากขึ้นภาษีศุลกากร ชาวอเมริกาเริ่มซื้อของกักตุน?

(CRI)วันพฤหัสบดี 16 มกราคม 2025

พร้อมกับใกล้ถึงเวลารัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐอเมริกาจะขึ้นแท่น เมื่อเร็วๆ นี้ ภายในประเทศสหรัฐฯ มีความกังวลนับวันมากขึ้นว่าสหรัฐฯ อาจก่อสงครามภาษีศุลกากรรอบใหม่ ธันวาคมปีที่แล้ว มีการสำรวจประชามติจากชาวอเมริกา 2,000 คน ผลปรากฏว่า ผู้ตอบสำรวจ 1 ใน 3 มีความกังวลต่ออนาคต อันเนื่องมาจากการขึ้นภาษีศุลกากร และนำไปสู่การซื้อของกักตุนเพิ่มขึ้น

ผลการวิจัยจากหลายฝ่ายแสดงว่า แรงกดดันจากกภาษีศุลกากรนั้น ได้ถ่ายโอนสู่ผู้บริโภคชาวอเมริกา ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยชิคาโกประกาศว่า นักเศรษฐศาสตร์กว่า 98% เห็นว่าผู้บริโภคชาวอเมริกาจะเป็นผู้แบกรับภาระภาษีศุลกากรสูง ขณะเดียวกัน การขึ้นราคาเช่นนี้จะทำให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นประมาณ 10%

วัตถุประสงค์ของสหรัฐฯ ในการเพิ่มภาษีศุลกากร คือ ผลักดันให้อุตสาหกรรมการผลิตฟื้นตัว แต่ความเป็นจริงคือได้ผลกลับกัน วารสารข่าวรายสัปดาห์และสื่อสหรัฐฯ อื่นๆ เห็นว่า ภาษีศุลกากรไม่สามารถฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ กลับจะขัดขวางการฟื้นฟูการผลิตของสหรัฐฯ เอง และดูเหมือนจะเป็นการปกป้องแขนงงานที่เกี่ยวข้อง แต่ความจริงแล้ว ได้ทำลายการมีงานทำในด้านอื่นที่กว้างขวางกว่า

สหรัฐฯ คิดใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือการค้า แต่สงครามภาษีศุลกากรไม่สามารถยับยั้งการพัฒนาของจีน ปัจจุบัน กรส่งออกของสหรัฐฯ นั้น เป็นเพียง 3% ในจีดีพีจีนเท่านั้น ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็ไม่สามารถกีดขวางการลงทุนในจีนของวิสาหกิจสหรัฐฯ ได้ ถึงเวลานั้น วิสาหกิจสหรัฐฯได้ตั้งบริษัทในจีนมากกว่า 73,000 แห่ง ยอดการลงทุนเกินกว่า 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

ความจริงพิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ผลสำเร็จของจีนและสหรัฐฯ จะเป็นโอกาสของทั้งสองฝ่ายหากมิใช่การท้าทายกัน โลกนี้มีความกว้างใหญ่เพียงพอ ที่จะรองรับการพัฒนาทั้งของจีนและสหรัฐฯ ที่เจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน การก่อสงครามภาษีศุลกากรและสงครามการค้านั้นจะไม่มีใครเป็นผู้ชนะ หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตกลงนโยบายด้วยความละเอียดถี่ถ้วน ก้าวร่วมไปกับจีน กลับสู่หนทางถูกต้องที่อำนวยประโยชน์แก่กัน สร้างความผาสุกให้ทั้งสองประเทศตลอดจนทั่วโลก