โลกต้องการพหุภาคีนิยม

งานการประชุมประจำปีของสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ประจำปี ค.ศ. 2025 ในหัวข้อ “ความร่วมมือเพื่อยุคอัจฉริยะ” จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-24 มกราคมที่กรุงดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยมีผู้แทนจากหลายภูมิภาคและอุตสาหกรรมจากทั่วโลกเกือบ 3,000 รายมารวมตัวกันในงาน เพื่อมุ่งสืบสานจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและครอบคลุม

ก่อนการประชุมดังกล่าว มีการเผยแพร่ “เครื่องมือตรวจวัดความร่วมมือระดับโลกปี ค.ศ. 2025” (Global Cooperation Barometer 2025) ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นต่อความร่วมมือระดับโลกที่มั่นคงในยุคหลังสงครามเย็น นอกจากนี้ ยังมีการออกรายงานความเสี่ยงทั่วโลกปี ค.ศ. 2025 โดยเน้นว่าวิธีแก้ปัญหาแบบพหุภาคีเป็นหนทางเดียวที่จะจัดการกับความเสี่ยงระดับโลกในอนาคต

สิ่งนี้บ่งชี้ว่า WEF ได้วางความร่วมมือพหุภาคีไว้ในตำแหน่งที่สำคัญกว่า

ปีนี้เป็นวาระแห่งการครบรอบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และการก่อตั้งสหประชาชาติ ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่เป็นสากล เป็นตัวแทน และมีอำนาจในตัวเองมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ลัทธิฝ่ายเดียวและลัทธิกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการแบ่งแยกและการกระจายตัวที่เพิ่มมากขึ้น กำลังเปลี่ยนโฉมภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อลัทธิพหุภาคี เมื่อเผชิญกับความไม่มั่นคงและความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้น ทุกฝ่ายจะต้องสนับสนุนและปฏิบัติตามลัทธิพหุภาคีเพื่อรับมือกับความท้าทายร่วมกันผ่านความร่วมมือระดับโลกที่มีประสิทธิผล

จีนสนับสนุนให้ทุกประเทศร่วมกันกำหนดอนาคตของโลก เขียนกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ จัดการกิจการระดับโลก และรับรองว่าทุกคนจะแบ่งปันผลลัพธ์การพัฒนาร่วมกัน หวังว่าทุกฝ่ายจะยอมรับวิสัยทัศน์ของชุมชนที่มีอนาคตร่วมกัน ปกป้องและปฏิบัติตามลัทธิพหุภาคี และส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลกด้วยจิตวิญญาณแห่งความสามัคคีระดับโลก

สันติภาพของโลกขึ้นอยู่กับการปกป้องการเป็นพหุภาคีนิยม ซึ่งเป็นผลเบื้องต้นจากวิวัฒนาการของระบบระหว่างประเทศ

บทเรียนอันโหดร้ายจากสงครามโลกทั้งสองครั้งแสดงให้เห็นถึงเกมศูนย์ที่ผลลัพธ์เพียงแค่ชนะ-แพ้ และการเมืองที่ใช้อำนาจนำไปสู่หายนะ ในขณะที่ระบบพหุภาคีนิยมและการแสวงหาความยุติธรรมปูทางไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน

ระเบียบระหว่างประเทศหลังสงครามซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่สหประชาชาติและมีรากฐานมาจากลัทธิพหุภาคี มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการเกิดสงครามซ้ำและส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของประเทศต่าง ๆ

ประเทศต่าง ๆ จะต้องปกป้องระบบระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง ระเบียบระหว่างประเทศขึ้นอยู่กับกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ

จีนยังคงเป็นผู้พิทักษ์อำนาจของสหประชาชาติอย่างแข็งขัน โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นเสาหลักสำคัญของพหุภาคีนิยม

การพัฒนาระดับโลกต้องอาศัยการสนับสนุนจากระบบพหุภาคี การส่งเสริมและฝึกฝนระบบพหุภาคี และการส่งเสริมความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายเป็นหนทางสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอนเพื่อเปิดตัวโครงการริเริ่มสำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ประเทศที่เป็นผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจควรให้ความช่วยเหลือแก่พันธมิตรของตนที่ยังตามไม่ทัน เพื่อเปลี่ยนความแตกต่างในการพัฒนาทั่วโลกให้เป็นความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ระบบการค้าพหุภาคีซึ่งมีองค์การการค้าโลกเป็นแกนหลัก ได้ยกระดับการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ในท้ายที่สุด ลัทธิกีดกันและลัทธิฝ่ายเดียวเป็นอันตรายต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องเสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคีและการเปิดกว้างเพื่อลดความเสี่ยงของการกระจายตัวของการค้า ความมุ่งมั่นของจีนในการขยายการเปิดกว้างในระดับสูง การสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง การปกป้องระบบการค้าพหุภาคี และการยกระดับการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระดับโลก ได้ส่งพลังงานเชิงบวกเข้าสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้เน้นย้ำในพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานกลุ่ม G77 และประเทศจีนว่า การยอมรับสนธิสัญญาเพื่ออนาคตในการประชุมสุดยอดของสหประชาชาติอย่างประสบความสำเร็จเมื่อปีที่แล้วนั้น ส่วนใหญ่เนื่องมาจากความพยายามอย่างไม่เปลี่ยนแปลงของกลุ่ม G77 และประเทศจีน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศต่าง ๆ สามารถรวมตัวกันเพื่อปรับเปลี่ยนระบบพหุภาคีที่รองรับทุกคน

จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อทบทวนปณิธานดั้งเดิมของการก่อตั้งสหประชาชาติ รักษาอำนาจและสถานะของสหประชาชาติอย่างมั่นคง สนับสนุนโลกพหุขั้วที่เท่าเทียมและเป็นระเบียบ ตลอดจนโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ในระดับสากลและครอบคลุม และเสริมสร้างรากฐานของสันติภาพโลกให้แข็งแกร่ง และพัฒนาโลกผ่านระบบพหุภาคี เพื่อนำพาความก้าวหน้าของมนุษย์ไปสู่อนาคตที่สดใสกว่า