ความสัมพันธ์ไทย-จีนช่วยสร้างการเติบโตในภูมิภาค

(People's Daily Online)วันอังคาร 17 มิถุนายน 2025

มิตรภาพที่ยาวนานระหว่างไทยและจีนจะดำรงต่อเนื่องไปอย่างแข็งแกร่งขึ้นผ่านความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและการแลกเปลี่ยนในสาขาต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตทางภูมิภาค ผู้เชี่ยวชาญกล่าวในการประชุมวิชาการแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้พัฒนาสู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งก่อตั้งขึ้นบนความไว้วางใจซึ่งกันและกันและคุณค่าร่วมกัน

ปานปรีย์เน้นย้ำถึงความสำเร็จที่สำคัญหลายประการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดตัวกลไกการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศและข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกัน เขากล่าวว่าจีนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก

ในโลกที่ต้องเผชิญกับความปั่นป่วนและความไม่แน่นอน ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนจะส่งเสริมให้เกิดสันติภาพและการพัฒนาในภูมิภาค เขากล่าวพร้อมเสริมว่า “เราควรกระชับความร่วมมือในทุกสาขา โดยเฉพาะโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรมนวัตกรรม และส่งเสริมการเชื่อมโยงและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนให้มากยิ่งขึ้น”

การประชุมสองวันจัดขึ้นร่วมกันโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตจีน มีนักวิชาการจากทั้งสองประเทศมาร่วมประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคต

ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า “50 ปีแห่งมิตรภาพระหว่างไทยและจีนกำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับทั้งสองประเทศ และเราหวังว่าการแลกเปลี่ยนทางวิชาการจะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ในทั้งสองประเทศที่จะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น”

ผศ.ชัยพร พยาครุฑ อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศควรร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจนวัตกรรม ซึ่งเป็นสาขาที่ได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่เยาวชน

ประเทศไทยกำลังกำหนดยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาซอฟท์พาวเวอร์ โดยวัฒนธรรมและนวัตกรรมเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญ “ประเทศไทยและจีนมีความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง ขณะที่ยังมีเศรษฐกิจนวัตกรรมรูปแบบต่าง ๆ เราควรแลกเปลี่ยนความคิดและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้และสร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนของเรา”

เสริมสร้างความไว้วางใจ

เจี่ย ชิ่งกั๋ว อดีตคณบดีคณะศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า แม้ว่าจีนและไทยจะมีมิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนกันมายาวนาน แต่ก็ยังคงมีปัญหาท้าทายอยู่ เช่น ความเข้าใจผิดที่เกิดจากการขาดการสื่อสารและภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน

เขาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองร่วมกัน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนปัญหาในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคที่ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน

เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขยายการค้าทวิภาคีเพื่อลดต้นทุนและเน้นที่อุตสาหกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

“นอกจากการร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนแล้ว เรายังควรทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติและภูมิภาคด้วย” เจี่ยกล่าว พร้อมเสริมว่า “นอกจากนี้ ยังมีโอกาสดี ๆ สำหรับสื่อมวลชนจากทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมมือกันในการสื่อสารและต่อต้านข่าวปลอม”

ในสุนทรพจน์เปิดงาน อู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ยุคปัจจุบันเป็นต้นมา

อุปทูตฯ กล่าวว่า “ท่ามกลางความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ จีนและไทยควรเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางยุทธศาสตร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างมั่นคง และใช้เสถียรภาพและความแน่นอนของความสัมพันธ์ทวิภาคี เพื่อตอบสนองต่อความไม่แน่นอนในสภาพแวดล้อมภายนอก”