ของเล่นเทรนด์จีนฮิตติดลมบนในงานนิทรรศการนานาชาติ
ของเล่นเทรนด์จีนปรากฏตัวบ่อยครั้งในนิทรรศการนานาชาติเมื่อเร็วๆ นี้ จนกลายเป็นจุดสนใจ
ในงาน Comic Con Cape Town ที่แอฟริกาใต้เมื่อวันที่ 1 ถึง 4 พฤษภาคม ของเล่นทันสมัยของจีนได้รับความสนใจจากผู้จัดแสดงเป็นอย่างมาก ในงานแคนตันแฟร์ที่เพิ่งสิ้นสุดลงไปไม่นานนี้ บริษัทผลิตของเล่นทันสมัยในประเทศยังดึงดูดความสนใจจากผู้ซื้อจากต่างประเทศจำนวนมากด้วยการออกแบบที่สร้างสรรค์และงานฝีมืออันประณีต ในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่การเข้าคิวยาวไปจนถึงมุมถนนในร้านค้าที่ลอสแองเจลิสในสหรัฐอเมริกา ไปจนถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ที่กระตือรือร้นที่จะแกะ "กล่องสุ่ม" ในห้างสรรพสินค้าแกเลอรี่ ลาฟาเยตในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ของเล่นทันสมัยของจีนกำลังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคในต่างประเทศว่าเป็น "สินค้าผลิตในจีน"
ในสหรัฐฯ แม้ว่าภาษีศุลกากรจะปรับขึ้นราคาทำให้ของเล่นสุดฮิตของจีนอย่าง Labubu จาก 22 เหรียญฯ เป็น 28 เหรียญฯ แต่ผู้บริโภคก็ยังคงคึกคักไม่ลดละ สื่อโกลบอล ไทมส์รายงานว่า บล็อกเกอร์รายหนึ่งโพสต์วิดีโอลงโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นว่าก่อนรุ่งสาง มีคนเข้าคิวยาวเหยียดที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย แฟนๆ บางคนห่มผ้าและนั่งบนเก้าอี้พับ และกางเต็นท์รอข้ามคืน
สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมทั้งสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และไทย เปียน เวย ผู้ทำงานและอาศัยอยู่ในปารีสมาเป็นเวลา 4 ปี ได้ใช้คำว่า "ระเบิด" เพื่ออธิบายสถานการณ์นี้ เธอให้สัมภาษณ์กับโกลบอล ไทมส์ว่า เมื่อไม่นานนี้ การเข้าคิวยาวเพื่อรอซื้อสินค้ากลายเป็นเรื่องปกติสำหรับร้านขายของเล่นสุดฮิปของจีน
ในประเทศไทย Labubu ได้รับความนิยมมายาวนานแล้ว ในระหว่างการไปเยี่ยมชมร้าน POP MART เมื่อไม่นานนี้ พบว่าร้านค้าหลายแห่งได้ติดตั้งแผงกั้นคิวแบบดึงกลับได้ที่ทางเข้าและทางออก และแต่ละแผงจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งทางเข้าและทางออกเพื่อดูแลความเรียบร้อยของคิว และตรวจสอบสินค้าที่ลูกค้าซื้อ พร้อมประทับตราบนรายการสินค้าที่ซื้อ ตามลำดับ
เมกาพลาซ่า สะพานเหล็ก ศูนย์การค้าของเล่นชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักสะสมของเล่น ที่นี่มีร้านค้ากว่า 600 ร้าน และแทบทุกชั้นจะมีร้านขายของเล่นเทรนด์จีน ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากเลือกที่จะมาชอปปิงที่นี่ในราคาสูงกว่าปกติ 10-20% หลังจากที่ไม่สามารถซื้อของเล่นเทรนด์จีนล่าสุดจากร้านค้าจริงแห่งอื่นได้
พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของใกล้บันไดเลื่อนชั้น 5 บอกกับโกลบอล ไทมส์ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ค้าหลายคนหันมาซื้อของเล่นจีนซึ่งเป็นสินค้ากระแสหลักแทน "มันได้รับความนิยมมากจนไม่ต้องกังวลเรื่องลูกค้าจะขาดตลาด"
เบื้องหลังการซื้อขายที่เฟื่องฟูนี้คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยทั่วไปแล้ว ฉลาก "ผลิตในจีน" ถูกเชื่อมโยงกับ "ความคุ้มทุน" และ "OEM" และของเล่นในประเทศก็เป็นผู้นำในด้านราคา แทบไม่มีแบรนด์ของเล่นใดเลยที่ผู้บริโภคจะจดจำได้ ในปัจจุบัน แบรนด์ของเล่นจีนที่กำลังมาแรงกำลังบุกเบิกแนวทางใหม่ โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและการออกแบบเพื่อกระตุ้นการบริโภคตามอารมณ์ และ "การสร้างแบรนด์" ได้กลายเป็นกระแสสำคัญในอุตสาหกรรมของเล่นในประเทศ
ตามรายงานที่เผยแพร่โดยสมาคมของเล่นและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กของจีนระบุว่า ในปี 2567 การส่งออกของเล่นแบรนด์อิสระของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 65 % ของการส่งออกของเล่นทั้งหมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของอุตสาหกรรมของเล่นของจีนตั้งแต่การผลิตแบบฉลากขาวไปจนถึงวิวัฒนาการของแบรนด์
รายงานที่เผยแพร่โดยสถาบันกลยุทธ์เศรษฐกิจแห่งชาติภายใต้สถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน (CASS) คาดการณ์ว่า มูลค่ารวมของอุตสาหกรรมของเล่นทันสมัยของจีนจะสูงถึง 110,100 ล้านหยวน (15,140 ล้านดอลลาร์) ภายในปี 2569 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20%
ในงานแคนตันแฟร์ บริษัทผลิตของเล่นจากเมืองตงก่วน มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ ซึ่งทำให้ของเล่นสามารถพูดได้หลายภาษา ในตลาดเกิดใหม่ เช่น แอฟริกา พื้นที่จัดแสดงของเล่นเทรนด์จีนที่งาน Comic Con Cape Town ก็ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน ผู้ค้าปลีกในแอฟริกาใต้กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ผู้บริโภคก็ให้ความสนใจของเล่นสุดเทรนด์ของจีนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบการขายแบบ "กล่องสุ่ม" ที่แปลกใหม่
หวาง เผิง นักวิจัยร่วมของสถาบันสังคมศาสตร์ปักกิ่งกล่าวกับโกลบอล ไทม์สเมื่อวันอังคารว่า ผลิตภัณฑ์ของเล่นทันสมัยได้นำเอาโมเดล "วัฒนธรรม + การออกแบบ" ระดับพรีเมียมมาใช้ผ่านความร่วมมือกับศิลปินต่างชาติและการปรับแต่งทรัพย์สินทางปัญญาในท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน ของเล่นทันสมัยของจีนและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมอื่นๆ ก็อาศัยแพลตฟอร์มโซเชียลเพื่อให้เข้าถึงผู้คนอย่างกว้างขวางผ่านกลยุทธ์ "ต้นทุนต่ำ + ปฏิสัมพันธ์สูง"
โมเดลนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภครุ่นใหม่ทั่วโลก เนื่องจากความต้องการคุณค่าทางอารมณ์ของคนรุ่น Gen Z ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลไก "กล่องปิด" และคลิปละครสั้นสไตล์ชาติต่าง ๆ กลายมาเป็น "สกุลเงินทางสังคม" ของต่างประเทศ ยิ่งทำให้ทัศนคติของชาวต่างชาติที่มีต่อ "วิถีชีวิตชาวจีน" เปลี่ยนไป
