อี้อูตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการยืดหยุ่นอย่างมั่นใจ

อี้อู ตลาดการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับฉายาว่า “ซูเปอร์มาร์เก็ตของโลก” เป็นแหล่งรวมของพ่อค้าแม่ค้ากว่า 70,000 ราย เป็นศูนย์กลางการค้าโลกที่คึกคักในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน บริษัทกว่า 3,000 แห่ง ทำการค้ากับสหรัฐฯ โดยมีระดับการพึ่งพาต่างกันไป ขณะนี้ ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วหลังจากที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า ตลาดโลกแห่งนี้รับมือกับพายุลูกนี้ได้ดีเพียงใด เนื่องจากเป็นฤดูกาลจัดซื้อจัดจ้างสินค้าคริสต์มาส พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ จึงเดินทางไปที่เมืองอี้อูเพื่อหาคำตอบ

เจียง เจียงผิง ผู้เปิดร้านขายชุดคริสต์มาสกับภรรยาของเขา กล่าวว่า “คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ คิดเป็นเพียงประมาณ 3 % ของคำสั่งซื้อทั้งหมดของเรา ดังนั้น จึงแทบไม่มีผลกระทบใด ๆ” ตลาดหลักของพวกเขาคือ ยุโรป และการผลิตก็ถูกจองไว้แล้วจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ระหว่างการเยี่ยมชมของผู้สื่อข่าว ผู้ซื้อสองกลุ่มได้เยี่ยมชมร้านภายในหนึ่งชั่วโมง โดยหนึ่งในนั้นเป็นลูกค้าใหม่จากอิตาลี

หวาง เสียวหลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งในเทศกาลคริสต์มาส ผลกระทบดังกล่าวมีนัยสำคัญ “เดือนเมษายนเป็นช่วงพีคของคำสั่งซื้อช่วงคริสต์มาส เนื่องจากสหรัฐฯ ตั้งภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 145% ทำให้คำสั่งซื้อของเราได้รับผลกระทบเกือบครึ่งหนึ่ง” เธอกล่าว การที่สินค้าจะสามารถจัดส่งจากอี้อูได้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมหรือไม่นั้นจะมีผลโดยตรงว่าชั้นวางของในสหรัฐฯ จะมีสินค้าเพียงพอสำหรับฤดูหนาวหรือไม่

เธอกล่าวว่า “หากการขึ้นภาษียังคงลากยาวต่อไป ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ อาจต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นสำหรับสินค้าคริสต์มาส หรือไม่สามารถซื้อเลยก็ได้”

แม้จะพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก แต่หวางก็ยังคงไม่หวั่นไหว คำสั่งซื้อจากสหรัฐอเมริกาที่น้อยลงก็หมายถึงทำงานล่วงเวลาน้อยลง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทของเธอได้ขยายกิจการในอเมริกาใต้และยุโรปอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เธอมีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และปรับปรุงคุณภาพเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วโลกได้ดีขึ้น

อาเรียน มัลเจี้ยน ผู้ซื้อชาวอาร์เจนตินาได้ยืนยันเรื่องนี้ “เหลือเวลาไม่มากแล้วที่จะหาสินค้าคริสต์มาส เมื่อห้านาทีที่แล้ว เรากำลังคุยกันถึงบูธนี้ว่าจะทำการซื้ออย่างไร เพราะ ใกล้ถึงเวลาที่จะซื้อของสำหรับคริสต์มาสแล้ว” เขากล่าว ตามที่อาเรียนกล่าว ความน่าดึงดูดใจของอี้อูไม่ได้อยู่ที่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพด้วย

พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์ พบว่า เมื่อเผชิญกับภาษีที่ไม่สมเหตุสมผล ธุรกิจในอี้อู กำลังขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ อย่างแข็งขัน ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความสามารถในการแข่งขันผ่านการวางแผนเชิงรุก นวัตกรรม และการขยายห่วงโซ่อุปทานของตน

หลิว สวีเหลี่ยน ผู้ดำเนินกิจการร้านขายของเล่นพิมพ์ 3 มิติ กล่าวว่า บริษัทของเขาให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการผลิตวัสดุพิมพ์ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขันทั้งในด้านสีและคุณภาพ

เขากล่าวล่า ระหว่างที่ขึ้นภาษี ผู้ซื้อชาวสหรัฐฯ จำนวนมากลังเลอยู่หนึ่งสัปดาห์ แต่ก็กลับมาสั่งซื้อเมื่อไม่สามารถหาซัพพลายเออร์ที่เสนอราคาที่ใกล้เคียงกันได้ บางรายยังเสนอวิธีการชดเชยต้นทุนเพิ่มเติมผ่านการเจรจา

หลิวกล่าวว่า การเติบโตทางธุรกิจโดยรวมของบริษัทนั้นแซงหน้าตลาดสหรัฐฯ อย่างมาก โดยส่วนแบ่งทางธุรกิจจากสหรัฐฯ ลดลงจากประมาณ 80% เหลือประมาณ 30% ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบของภาษีได้มาก

“เมื่อก่อนเราใช้เครื่องจักร 1,000 ถึง 2,000 เครื่อง แต่ตอนนี้เรามี 5,000 ถึง 6,000 เครื่อง และผลผลิตส่วนเกินก็ขายให้กับประเทศอื่นๆ ” เธอกล่าว

พ่อค้าในเมืองอี้อูไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ต้องปรับตัว นโยบายในท้องถิ่นก็ให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน เมื่อวันที่ 29 เมษายน เมืองอี้อูได้เปิดตัวมาตรการใหม่ 10 ประการเพื่อส่งเสริมการเติบโตที่มีคุณภาพสูงของเศรษฐกิจภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยี การอัปเกรดอัจฉริยะ และการพัฒนาบุคลากร นอกจากนี้ เมืองอี้อูยังประกาศว่าจะจัดสรรเงินทุนพิเศษ 100 ล้านหยวน (ประมาณ 13.82 ล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าที่ขายเน้นตลาดในสหรัฐอเมริกา 3,000 ราย เพื่อให้พวกเขาสามารถขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศอื่น ๆ และรับคำสั่งซื้อใหม่ ๆ

ด้วยศักยภาพทางการตลาดที่กว้างขวาง ห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และการสนับสนุนนโยบายที่ทันท่วงที ผู้ประกอบการในอี้อูจึงมั่นใจในความสามารถของตนที่จะเสี่ยงและส่งเสริมนวัตกรรมท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก ศูนย์กลางการค้าต่างประเทศแห่งนี้ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ผ่านการเจรจาและสัญญาที่ลงนามทุกครั้ง เมืองแห่งนี้ยังคงเปิดทำการทางธุรกิจ เชื่อมโยงประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ มากกว่า 230 แห่งกับผู้ผลิตชาวจีนมากกว่า 2.1 ล้านราย